ผู้ชมทั้งหมด 278
สมโภชน์ – อมร ประกาศลาออก EA ตั้งบอร์ดชุดใหม่ “สมใจนึก เองตระกูล” รักษาการซีอีโอ ปรับทีมงานลุยเดินหน้าแผนธุรกิจ ยันยังมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ มั่นใจมีแผนคืนหนี้หุ้นกู้ได้ตามกำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ประกาศลาออกจากการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ เพื่อความโปร่งใสและเปิดโอกาสให้เกิดการตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ นั้นที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติแต่งตั้งให้ นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการบริษัทฯ ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมแต่งตั้งกรรมการบริษัทเพิ่มเติม ประกอบด้วย นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์, นายวสุ กลมเกลี้ยง และนายฉัตรพล ศรีประทุม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังมีมติเห็นชอบเพื่อเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติเพิ่มจำนวนกรรมการ และพิจารณาแต่งตั้ง นายสุพันธุ์ มงคลสุธี เป็นกรรมการใหม่ของบริษัท
พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร (Executive Committee) ซึ่งประกอบด้วย นายวุฒิเลิศ เจียรนิลกุลชัย ประธาน,นายสมใจนึก เองตระกูล กรรมการบริหาร,นายสมบูรณ์ อาหุนัย กรรมการบริหาร,นายจำรัส สว่างสมุทร กรรมการบริหาร,นายณาศิส ประเสริฐสกุลกรรมการบริหาร, นายวสุ กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร,นายฉัตรพล ศรีประทุม กรรมการบริหาร
นายสมใจนึก กล่าวว่า ถึงแม้ว่านายสมโภชน์และนายอมรจะต้องลาออกไป แต่มั่นใจว่าจะไม่เป็นปัญหาต่อการดำเนินธุรกิจ แผนการขยายธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ ทำงานด้วยระบบและทีมงานที่ตั้งขึ้นมาเป็นผู้ที่ทำงานร่วมกับนายสมโภชน์และนายอมรในโครงการต่างๆมายาวนานและเป็นมืออาชีพ ตนเชื่อมั่นว่า EA อยู่ในธุรกิจที่ดีที่มีอนาคต มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
กรณีคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษกรรมการและผู้บริหารบริษัทฯ คณะกรรมการบริษัทได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษ และรายงานต่อคณะกรรมการบริษัททราบโดยเร็ว
การปรับโครงสร้างกรรมการบริษัท และผู้บริหารระดับสูง ส่งผลให้บริษัทฯ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในการยื่นขอออกตราสารหนี้หรือตราสารทุนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ ทั้งนี้ คณะผู้บริหารและทีมงานที่บริหารจัดการยังคงเป็นชุดเดิม สำหรับภาระหนี้สินของบริษัทฯ ที่จะครบกำหนดชำระในไตรมาสที่ 3 และ 4 ในปี 2567 นี้ ประกอบด้วย ภาระหนี้จากสถาบันการเงินประมาณ 3,200 ล้านบาท และหุ้นกู้จำนวน 5,500 ล้านบาทนั้น สามารถชำระได้ด้วยกระแสเงินสดจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมประมาณ 5,000 ล้านบาท (หัก Adder ของโครงการที่ครบกำหนดแล้ว) และได้เตรียมวงเงินสำรองจากสถาบันการเงิน และหุ้นกู้ที่จะเสนอขายเพิ่มเติม โดยหุ้นกู้อยู่ระหว่างขั้นตอนการยื่นเอกสารต่อ ก.ล.ต เพื่อเสนอขาย