“มนพร” เร่งการท่าเรือ สำรวจพื้นที่สร้าง Dry Port ในโคราช หนุนขนส่งแบบไร้รอยต่อ

ผู้ชมทั้งหมด 306 

มนพร” เร่งการท่าเรือ สำรวจพื้นที่สร้าง Dry Port ในจ.นครราชสีมา ช่วยลดต้นทุน-หนุนขนส่งแบบไร้รอยต่อ ยกระดับการขนส่งสินค้าในพื้นที่ภาคอีสาน เชื่อมต่อกับ สปป.ลาว จีนตอนใต้

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการขับเคลื่อนการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและเชื่อมโยงโครงข่ายการขนส่งสินค้าของประเทศให้มีประสิทธิภาพ การพัฒนา Dry Port จึงเป็นหนึ่งในการดำเนินโครงการสำคัญของกระทรวงคมนาคมที่จะช่วยส่งเสริมโครงข่ายการเชื่อมโยงสินค้าและระบบโลจิสติกส์ทั้งภายในและระหว่างประเทศให้ใช้การขนส่งทางรางและทางน้ำเป็นหลัก เนื่องจากเป็นระบบการขนส่งที่มีความปลอดภัย ต้นทุนต่ำกว่าการขนส่งทางถนน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า จังหวัดนครราชสีมา เป็น 1 ใน 4 จังหวัดที่มีความเหมาะสมที่สุดในการพัฒนา Dry Port เพื่อยกระดับการขนส่งสินค้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนและระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐบาล เนื่องจากมีความพร้อมด้านการเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่เชื่อมต่อกับ สปป.ลาว จีนตอนใต้ และเมียนมา และยังมีศักยภาพที่จะสามารถเชื่อมโยงการขนส่งไปยังประเทศจีนได้ในอนาคต นอกจากนี้ พื้นที่ยังครอบคลุมการขนส่งทั้งทางถนนและทางราง โดยอยู่ห่างจากท่าเรือแหลมบัง 320 กิโลเมตร ประกอบกับมีจุดแข็งที่สำคัญ คือ มีสินค้าส่งออกที่สำคัญทั้งสินค้าทางการเกษตร อาทิ แป้งมันสำปะหลัง ข้าว น้ำตาล และยังเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่เน้นการขนส่งภายในประเทศด้วย 

นางมนพร กล่าวอีกว่า ได้มอบให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เร่งสำรวจพื้นที่ภายในจังหวัดนครราชสีมาที่มีความเหมาะสมกับการพัฒนา Dry Port และผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยสนับสนุนการขนส่งหลายรูปแบบอย่างไร้รอยต่อ (Seamless Transport) ที่จะช่วยลดปัญหาความแออัดจากการขนส่งสินค้าเข้า – ออกที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งหลักของประเทศในขณะนี้ ช่วยยกระดับการให้บริการให้สะดวกรวดเร็ว ลดระยะเวลาการรอคอย ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศ รองรับการเติบโตด้านการขนส่งสินค้าผ่านทางเรือชายฝั่งและทางรถไฟที่จะเกิดขึ้นจากโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม อันจะเป็นกลไกที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาคต่อไป

ด้าน นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า จากการสำรวจพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ Dry Port บริเวณสถานีรถไฟบ้านกระโดน ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมือง และบริเวณตำบลกุดจิก อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา รวมถึงการประชุมศึกษาแผนการดำเนินการความเป็นไปได้ของรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม ร่วมกับสถาบันชุณหะวัณเพื่อการพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน ในฐานะผู้จัดการโครงการพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และคณะที่ปรึกษาโครงการฯ พบว่า มีความเป็นไปได้ของรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับ กทท. ในการพัฒนา Dry Port 4 แนวทาง ได้แก่ รูปแบบพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (PPP) รูปแบบการลงทุนร่วมกับบริษัทเอกชน (Joint Venture) รูปแบบการใช้เงินลงทุนของ กทท. และรูปแบบอื่น ๆ แผนการลงทุน และการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นของโครงการฯ ที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกมิติ โดยจะพิจารณาด้านความพร้อมในการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมต่อไป