ผู้ชมทั้งหมด 292
“สุรพงษ์” ลงพื้นที่โคราชติดตามความคืบหน้ารถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ พร้อมเร่งไฮสปีดไทย – จีน หลังคืบหน้า 33.48% มั่นใจแล้วเสร็จปี 71
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่จังหวัดนครราชสีมา นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ และโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา) ณ สถานีนครราชสีมา โดยเน้นย้ำให้การดำเนินโครงการเสร็จสิ้นตามแผนที่กำหนด
พร้อมทั้งได้ร่วมโดยสารขบวนรถไฟท่องเที่ยว KIHA ที่สถานีรถไฟปากช่อง และเยี่ยมชม “ของดีวิถีริมราง เพื่อร่วมประชาสัมพันธ์เส้นทางรถไฟท่องเที่ยว ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล โดยในเส้นทางของดีวิถีริมรางในจังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นแหล่งรวบรวมอาหารที่มีชื่อเสียงมากมายไม่ว่า ข้าวหมูแดงที่สถานีปากช่อง ผัดหมี่และปลาร้าทอดกรอบที่สถานีนครราชสีมา ข้าวโพดหวาน ที่หอมหวาน เปลือกบางที่สถานีปางอโศก น้อยหน่าผลใหญ่ รสหวานทานง่าย ที่สถานีกลางดง เป็นต้น
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า โครงการพัฒนาระบบขนส่งทางรางในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมานับมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์โดยรวมของประเทศ ซึ่งนอกจากเปรียบเป็นประตูของการเดินทางไปสู่พื้นที่ภาคอีสานแล้ว จังหวัดนครราชสีมายังมีโครงการคมนาคมสำคัญที่สามารถเชื่อมโยงไปกับระบบขนส่ง สาธารณะอื่นอีกหลายโครงการ
โดยเฉพาะรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร จำนวน 20 สถานี วงเงินลงทุน 29,968 ล้านบาท ปัจจุบันภาพรวมด้านงานโยธา สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา – คลองขนานจิตร คืบหน้าไปแล้วร้อยละ 96.36 ช้ากว่าแผนงานร้อยละ 3.64 และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์ มีความคืบหน้าร้อยละ 95.36 ช้ากว่าแผนงานร้อยละ 4.64 เนื่องจากอยู่ระหว่างการเวนคืนพื้นที่จากประชาชน
ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร – ชุมทางถนนจิระอยู่ระหว่างการแก้ไขรูปแบบการก่อสร้างเป็นทางยกระดับ ช่วงสถานีโคกกรวด – ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 16 กิโลเมตร และปรับกรอบวงเงินเพื่อให้สอดคล้องกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ช่วงโคกกรวด – นครราชสีมา งานสัญญาที่ 3 – 5 เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่องบประมาณสูงสุด คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้
สำหรับรายละเอียดของสัญญาที่ 1 ช่วงบริเวณสะพานข้ามทางรถไฟ (Overpass) บ้านท่ามะนาว อำเภอปากช่อง ความยาว 900 เมตร ปัจจุบันในส่วนที่เป็นโครงสร้างยกระดับข้ามทางรถไฟ ความยาว 400 เมตรเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นถนนทางราบ (At-grade) อีกประมาณ 500 เมตรที่อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ ขณะที่การสร้างอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) บริเวณถนนเทศบาล 9 อำเภอปากช่อง ความยาว 300 เมตร ก่อสร้างไปแล้วร้อยละ 77 ของมูลค่างาน ที่เหลืออยู่ระหว่างเวนคืนที่ดินของเอกชน ซึ่งรฟท. กำลังขออนุมัติงบประมาณเวนคืนเพิ่มเติม 197.38 ล้านบาท หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ความเห็นชอบก็จะเร่งดำเนินการได้ในเดือนตุลาคม 2567 เพื่อให้การดำเนินทั้งโครงการเสร็จตามเป้าหมายภายในเดือนธันวาคม 2568
ส่วนการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างปากอุโมงค์ลำตะคอง (อุโมงค์ 3) ฝั่งมุ่งหน้าสถานีคลองไผ่ ระยะทาง 237 เมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางนั้น ขณะนี้รฟท.อยู่ระหว่างเสนองานเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม คาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนงานภายในปี 2567
ส่องความคืบหน้ารถไฟความเร็วสูง
โครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา) ระยะทางรวม 250.77 กิโลเมตร ได้กำชับให้ รฟท. เร่งรัดการก่อสร้าง รวมถึงแก้ไขอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้ทันตามแผนงานที่กำหนดไว้ภายในปี 2571
สำหรับความก้าวหน้าโครงการ ล่าสุด ณ เดือนพฤษภาคม 2567 ภาพรวมได้ดำเนินการไปแล้วกว่าร้อยละ 33.48 โดยในส่วนแผนก่อสร้างงานโยธา 14 สัญญา ที่เริ่มก่อสร้างไปตั้งแต่เมื่อปี 2560 จนถึงปัจจุบัน ได้ก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว 2 สัญญา คือ สัญญาที่ 1 – 1 ช่วงกลางดง – ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร สัญญาที่ 2 – 1 ช่วงสีคิ้ว – กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร
ส่วนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 10 สัญญา ได้แก่ สัญญา 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และปางอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30.21 กิโลเมตร ผลงาน 0.43% สัญญา 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็ก และลำตะคอง ระยะทาง 12.23
กิโลเมตร ผลงาน 66.32% สัญญาช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง ระยะทาง 26.10 กิโลเมตร ผลงาน 51.19% สัญญา 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และช่วงกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กิโลเมตร ผลงาน 75.97% สัญญา 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กิโลเมตร ผลงาน 7.62% สัญญา 4-2 ช่วงดอนเมือง-นวนคร ระยะทาง 21.80 กิโลเมตร ผลงาน 0.32% สัญญา 4-3
ช่วงนวนคร-บ้านโพ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ผลงาน 33.46% สัญญา 4-4 ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย ผลงาน 12.24% สัญญา 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.60 กิโลเมตร ผลงาน 2.62% สัญญา 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย ระยะทาง 12.99 กิโลเมตร ผลงาน 54.65% และที่ยังไม่ลงนาม 2 สัญญา คือ ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กิโลเมตร และช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.30 กิโลเมตร
นอกจากนี้ รฟท.ได้รายงานความคืบหน้าแผนการสร้างสถานีรถไฟนครราชสีมาแห่งใหม่ สำหรับรองรับโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมพื้นที่เพื่อการรื้อถอนสถานีรถไฟเดิม เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารสถานีใหม่ โดยรูปแบบจะเป็นลักษณะอาคารขนาดใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งลิฟต์ บันไดเลื่อน บันไดทางขึ้นลง บันไดหนีไฟ ห้องสุขา ห้องพักสำหรับพระภิกษุสงฆ์ ห้องให้นมบุตร ห้องรับฝากสิ่งของ ห้องจำหน่ายตั๋ว ห้องเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ตลอดจนพื้นที่ใช้สอยสำหรับประชาชน นักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ รฟท. เร่งพัฒนาระบบเชื่อมโยงการขนส่ง เพื่อให้นครราชสีมาเป็นศูนย์กลางรองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว ไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นในจังหวัด รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะการเชื่อมโยงจากโครงการรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ รวมถึงโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมา ไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง แก่ประชาชนได้อีก
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าหากการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ รวมถึงโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมาดำเนินการได้แล้วเสร็จจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มขีดความสามารถในระบบโลจิสติกส์ของไทยให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศ และขับเคลื่อนให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางคมนาคมของภูมิภาคตามนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ ในการเดินทาง การขนส่งสินค้าของประชาชนคนไทยได้ดียิ่งขึ้น