WHAUP ลุ้นปิดดีลM&A ธุรกิจไฟฟ้าในต่างประเทศสิ้นปีนี้

ผู้ชมทั้งหมด 301 

WHAUP หวังปิดดีลเข้าซื้อกิจการ (M&A) ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ 1 โครงการ กำลังผลิตกว่า 100 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปีนี้ หลังเจรจา 2-3 โครงการในมือ

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP ระบุว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ ยังขับเคลื่อนด้วยธุรกิจหลักทั้งธุรกิจสาธารณูปโภค(น้ำ) และธุรกิจไฟฟ้า โดยในส่วนของธุรกิจไฟฟ้า จะเน้นขยายการเติบโตโครงการโซลาร์รูฟท็อป ทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้ จะมีกำลังการครบ 300 เมกะวัตต์ หรือเพิ่มขึ้นราว 100 เมกะวัตต์ จากปี 2566 มีกำลังผลิต อยู่ที่ประมาณ 200 เมกะวัตต์

โดย บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการ (M&A) โครงการพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ จำนวน 2-3 ราย ทั้งโซลาร์และพลังงานลม คาดว่า ภายในปีนี้ จะสามารถปิดดีลได้อย่างน้อย 1 โครงการ เบื้องต้นเป็นโครงการโซลาร์ฟาร์ม กำลังการผลิตรวมมากกว่า 100 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าโครงการรวมประมาณ 200 ดอลลาร์ฯ โดยหากปิดดีลได้สำเร็จ คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งการเข้าไปลงทุนในโครงการเป้าหมายนั้น จะเป็นลักษณะเข้าถือหุ้นบางส่วนร่วมกับพาร์ทเนอร์ เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าถือหุ้นในโครงการสัดส่วนราว 20-30% เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการ

ส่วนธุรกิจสาธารณูปโภค(น้ำ) บริษัทมีแผนขยายการเติบโตทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยจะเป็นความร่วมมือทั้งกับกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA และนอกกลุ่มฯที่จะเป็นลักษณะร่วมกับพันธมิตร เช่น ที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมกับบริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด ซึ่งไม่ใช่กลุ่ม WHA อีกทั้ง ยังมีแผนที่จะขยายการเติบโตออกไปยังนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย

ล่าสุด บริษัทได้ลงนามในสัญญาการให้บริการน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) ปริมาณการผลิต 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี กับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) คาดว่า จะดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 3ปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายการเติบโตไปยังธุรกิจใหม่ๆ โดยจะเน้นการต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาดผ่านการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชั่นด้านพลังงานใหม่ๆ อาทิ การเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สอดรับกับแผนการลงทุนใน Green Logistics แบบครบวงจรของ WHA Group  โดยได้ตั้งเป้าขยายการให้บริการครบ 120 ตู้ชาร์จภายในปีนี้ ภายใต้งบลงทุนที่ไว้ประมาณ 300 ล้านบาท รวมถึง ยังพิจารณาโอกาสขยายการลงทุนในระยะทั้งเรื่องของธุรกิจไฮโดรเจน และCCUS แต่ยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้