“อินโนพาวเวอร์” ร่วมลงทุน 50 ล้านใน SHARGE ขยายฐานธุรกิจ EV แบบครบวงจร

ผู้ชมทั้งหมด 273 

“อินโนพาวเวอร์” ร่วมลงทุน 50 ล้านใน SHARGE ผู้ให้บริการสถานีชาร์จ EV แบบครบวงจร ลุยขยายฐานธุรกิจ EV ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค สนับสนุนเป้าขยายสถานีบริการได้เร็วขึ้น

นายอธิป ตันติวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ด้านพลังงาน และสนับสนุนส่งเสริมสตาร์ทอัพในอุตสาหกรรมพลังงาน เปิดเผยว่า อินโนพาวเวอร์ให้ความสำคัญกับเรื่อง Mobility และต้องการสร้างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาดให้เร็วยิ่งขึ้น จึงได้ร่วมลงทุนมูลค่า 50 ล้านบาทกับบริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ผู้นำด้านการสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ซึ่งเป็นบริษัทที่เติบโตจากการเป็นสตาร์ทอัพ

สำหรับเป้าหมายของการร่วมลงทุนครั้งนี้ คาดว่าจะมีส่วนช่วยให้สถานีชาร์จ EV ขยายตัวรองรับความต้องการของผู้ใช้ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น และอินโนพาวเวอร์สามารถสร้างบริการเพิ่มเป็น Service on Top สำหรับผู้ใช้รถ EV เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น  พร้อมกับวางเป้าระยะยาวในการได้มีส่วนร่วมเป็นผู้ร่วมถือหุ้นกับทาง SHARGE อีกด้วย

กลุ่ม SHARGE เป็นผู้นำอันดับต้นๆ ที่ให้บริการ EV Charging Solution แบบครบวงจร และมีความแข็งแกร่งทั้งแพลตฟอร์ม ทีมติดตั้ง ทีม maintenance การให้บริการได้ทั่วประเทศ การร่วมลงทุนกับ SHARGE เป็นหนึ่งในพันธกิจของอินโนพาวเวอร์ด้าน Decarbonization Partner ในการร่วมมือกับพันธมิตรลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยทางอินโนพาวเวอร์เล็งเห็นถึงโอกาสของการ Service ให้สถานีบริการต่างๆ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้สถานีบริการครอบคลุมมากยิ่งขึน ที่ผ่านมา SHARGE มีบริษัทชั้นนำเข้าร่วมลงทุนจากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด และบริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด

“การลงทุนร่วมกันครั้งนี้ช่วยทำให้ระบบนิเวศทางธุรกิจของอินโนพาวเวอร์ในกลุ่ม Future of Mobility ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นแล้ว เนื่องจากบริษัทฯ มีทั้ง EV Chargers การติดตั้งสถานีชาร์จ EV การบริหารจัดการ EV Fleet และยังมีส่วนช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทั้ง SHARGE และอินโนพาวเวอร์มีวิสัยทัศน์และทิศทางเรื่อง Mobility ที่สอดคล้องกัน และร่วมกันสร้างโอกาสในการเร่งการขยายโครงข่ายสถานีประจุไฟฟ้าให้รองรับความต้องการการใช้งานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการนำเสนอบริการที่จะช่วยเสริมประสบการณ์ให้ผู้ใช้ EV ให้มีความสะดวกมากขึ้น ซึ่งทิศทางดังกล่าวยังสอดคล้องไปกับ Roadmap ของภาครัฐที่สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรม EV อีกด้วย” นายอธิปกล่าว