กฟผ. จับมือ บีไอจี พัฒนาเทคโนโลยีจัดเก็บ ขนส่งไฮโดรเจนสำหรับผลิตไฟฟ้า

ผู้ชมทั้งหมด 390 

กฟผ. ผนึก บีไอจี เปิดเกมรุกลุยศึกษาพัฒนาศักยภาพการจัดเก็บและขนส่งไฮโดรเจนสำหรับผลิตไฟฟ้า หวังเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Emission บีไอจี มั่นใจช่วยปล่อยคาร์บอนลดลง 95% เทียบเท่าการผลิตบลูไฮโดรเจน

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ.มุ่ง เดินหน้าการพัฒนาเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้า เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของประเทศในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน โดยมีแผนนำไฮโดรเจนมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าร่วมกับก๊าซธรรมชาติ เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคการผลิตไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งความร่วมมือระหว่าง กฟผ. กับบีไอจีในครั้งนี้มีระยะเวลาความร่วมมือรวม 2 ปี โดยจะร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ และประเมินศักยภาพการจัดเก็บและขนส่งไฮโดรเจน เพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงร่วมในการผลิตไฟฟ้าในโครงการ Hydrogen Blending Demonstration กับโรงไฟฟ้าศักยภาพของ กฟผ. ทั้งในด้านวิศวกรรม การประเมินต้นทุนค่าใช้จ่าย วิเคราะห์ความเป็นไปได้ด้านเศรษฐศาสตร์ และเสนอรูปแบบการจัดเก็บและขนส่งเชิงธุรกิจที่เหมาะสม รวมถึงผลกระทบ ความเสี่ยง และมาตรการรองรับต่อผู้มีส่วนได้เสียในทุกมิติ

นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี กล่าวว่า บีไอจีเดินหน้านำนวัตกรรมจากไฮโดรเจนที่บีไอจีและแอร์โปรดักส์ บริษัทแม่ของบีไอจีจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความชำนาญและเป็นผู้ลงทุนโครงการกรีนไฮโดรเจนรายใหญ่ที่สุดของโลก บีไอจีตระหนักถึงการใช้พลังงานสะอาดเพื่อร่วมผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในประเทศไทยภายใต้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ GENERATING A CLEANER FUTURE ด้วยการผลักดันการผลิตและการใช้ประโยชน์จากพลังงานไฮโดรเจน ซึ่งเป็นหนึ่งใน Climate Technology ที่จะช่วยในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การร่วมมือศึกษาพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจนนี้ยังสามารถตอบสนองแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) ในการนำเอาไฮโดรเจนมาใช้ผลิตไฟฟ้าครั้งแรกในประเทศไทย และนับว่าเป็นการผลิตไฟฟ้าทางเลือกในการใช้เชื้อเพลิงสะอาด รวมถึงไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำจากบีไอจีที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ (CFP) จากองค์กรบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ว่า ปล่อยคาร์บอนลดลงร้อยละ 95 เทียบเท่าการผลิตบลูไฮโดรเจน ดังนั้นไฟฟ้าที่ได้จากการนำไฮโดรเจนมาใช้ประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้านี้จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการผลักดันการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสีเขียวตอบโจทย์เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ของประเทศในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ในปี ค.ศ. 2065