“มนพร” เร่งเจ้าท่าสร้างเครือข่ายอาสาวารี เน้นปลอดภัยและเฝ้าระวังอุบัติเหตุทางน้ำ

ผู้ชมทั้งหมด 407 

มนพร” เร่งเจ้าท่าสร้างเครือข่ายอาสาวารี เน้นปลอดภัยและเฝ้าระวังอุบัติเหตุทางน้ำ เรียกความเชื่อมั่นผู้ใช้บริการดันนครพนมเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักภายใน 2 ปี หวังแอร์เอเชียเพิ่มเที่ยวบินเป็น 4 เที่ยวบินต่อวัน

เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่โรงแรม ไอ โฮเท็ล ตำบลท่าค้อ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดอบรมเครือข่ายอาสาวารี รุ่นที่ 44 จังหวัด นครพนม จัดโดยสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ โดยระบุว่า โครงการอบรมอาสาวารีเป็นหนึ่งในกิจกรรมของกรมเจ้าท่าที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยทางน้ำและการหามาตรการเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุอันอาจเกิดจากการใช้เรือและท่าเทียบเรือ การสัญจรทางน้ำ การแจ้งเหตุเกี่ยวกับมลภาวะทางน้ำ หรือการกระทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ พร้อมกับรองรับนโยบาย “คมนาคม..สร้างสุขทุกการเดินทาง”/ และ “ราชรถยิ้ม”ของกระทรวงคมนาคม ที่กำหนดให้ ปี พ.ศ. 2567 เป็นปีแห่งความสุขและความปลอดภัยในทุกการเดินทางของประชาชน    

โดยในปี 2567 มีการจัดอบรม 2 รุ่นที่จังหวัดนครพนมและจังหวัดชลบุรี ซึ่งในส่วนของจังหวัดนครพนมนั้นเป็นเมืองที่ติดแม่น้ำโขงและมีกิจกรรมทางน้ำของกลุ่มชมรมนกเป็ดน้ำ ที่ออกกำลังกาย และเก็บขยะในแม่น้ำโขง ที่สำคัญยังมีบริการเรือท่องเที่ยวริมฝั่งแม่น้ำโขง และเรือโดยสารข้ามฟากระหว่างไทย-ลาว ที่มีผู้ใช้บริการเฉลี่ยในวันจันทร์-ศุกร์ ประมาณ 800 คนต่อวัน และ เสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 1,200 คนต่อวัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องยกระดับความปลอดภัยทางน้ำ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว และประชาชน

ขณะเดียวกันนครพนมยังเป็นจังหวัดที่ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาล ให้ยกระดับจากเมืองท่องเที่ยวรองให้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก เนื่องจากมีความพร้อมทั้งสถานที่ตั้งที่มีภูมิทัศน์พื้นที่ด้านเหนือและตะวันออกของจังหวัดติดกับแม่น้ำโขงโดยตลอด และมีศักยภาพในการพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำกับประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับมีสถานที่สัญจรและท่องเที่ยวทางน้ำหลายแห่ง อาทิ การล่องเรือชมแม่น้ำโขง ประเพณีแข่งเรือยาว เทศกาลไหลเรือไฟ และมีพระธาตุพนมคู่บ้านคู่เมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมากราบสักการะเป็นจำนวนมาก ถือเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวติดใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวซ้ำ โดยใช้จังหวัดนครพนมเป็นจุดหมายปลายทาง ในการพักผ่อน มาชาร์จแบต และได้มาใช้ชีวิตที่สโลว์ไลฟ์ โดยการยกระดับเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางที่จะเข้ามายังจังหวัดนครพนม

ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้ประชุมหารือกับสายการบินไทยแอร์เอเชียเกี่ยวกับการเพิ่มเที่ยวบิน จาก 3 เที่ยวบินต่อวันเป็น 4 เที่ยวบินต่อวัน รวมถึงการพิจารณาเพิ่มเที่ยวบินระหว่างเมือง 2 เส้นทาง คือ เส้นทางนครพนม-ภูเก็ต และนครพนม-เชียงใหม่ เนื่องจากท่าอากาศยานนครพนมมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจากเวียดนามและลาวโดยทางรถยนต์ค่อนข้างมาก และประสงค์ที่จะเดินทางไปเที่ยวต่อที่ภูเก็ตและเชียงใหม่ทางเครื่องบิน หากมีเที่ยวบินเปิดให้บริการเชิ่อว่าจะรองรับความต้องการของผู้โดยสารได้ อย่างไรก็ตามจากนี้ไปทางสายการบินแอร์เอเชียจะทำการประเมินข้อมูลจำนวนผู้โดยสารอีกครั้ง คาดว่าน่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปีสิ้นนี้

“ในระยะเวลา 3 ปี จากปี 65-67 การท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมเติบโตขึ้นมากถึง 300%  จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรม จำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น รวมถึงจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ที่รับส่งผู้โดยสารจากกรุงเทพมีการจำนวนเที่ยวมากขึ้น แต่การท่องเที่ยวทางน้ำยังได้รับความนิยมน้อยมาก เนื่องจากข้อจำกัดของ เรือท่องเที่ยวที่มีเพียงแค่หนึ่งลำเท่านั้น ขณะที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวจังหวัดนครพนมตลอดทั้งปี ดังนั้นทางผู้ประกอบการคงต้องพิจารณาจัดหาเรือท่องเที่ยวมาให้บริการเพิ่ม ส่วนกรมเจ้าท่าต้องยกระดับมาตรการความปลอดภัยทางน้ำในพื้นที่ติดริมแม่น้ำโขงให้เข้มข้นขึ้น ทั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ให้มีอย่างเพียงพอ รวมถึงประสานบูรณาการการทำงานร่วมกับ หน่วยงานท้องถิ่น ในแต่ละพื้นที่เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ”นางมนพร กล่าว

ทั้งนี้ที่ผ่านมากรมเจ้าท่า ได้ดําเนินการอบรมผ่านมาแล้ว 43 รุ่น มีเครือข่ายอาสาวารี ทั่วประเทศถึง 6,866 คน ที่จะร่วมกันช่วยดูแลความปลอดภัยลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน อันเกิดจากอุบัติเหตุทางน้ําลง ได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป