ผู้ชมทั้งหมด 928
“มนพร” ย้ำการจัดงบประมาณปี 67 ให้ความสำคัญกับการขนส่งทุกเส้นทาง ส่วนโครงการแลนด์บริดจ์ เน้นผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลักเพื่อเป้าหมายด้านเศรษฐกิจของประเทศ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวในการประชุมวุฒิสภาร่างพระราช บัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 โดยได้ตอบคำถามของ นายสุรเดช จิรัฐติเจริญ กรณีทางเชื่อมรถไฟหนองคาย – เวียงจันทร์ ว่า กระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญกับการขนส่งทางราง มีเป้าหมายให้ผู้ประกอบการหันมาขนสินค้าทางรางมากขึ้นแทนการขนส่งด้วยรถบรรทุก โดยเชื่อมโครงข่ายทางรางให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการเชื่อมต่อ 3 สนามบิน และในอนาคตโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย เพื่อเชื่อมโยงรถไฟความเร็วสูง สปป.ลาว – จีน โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2567 สำหรับออกแบบรายละเอียดและจัดทำรายงาน EIA วงเงิน 125 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2572
นอกจากนี้ นางมนพร ได้กล่าวถึงญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภาเพื่อให้รัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือปัญหาสำคัญที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ว่า โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมในพื้นที่ EEC รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ภูมิภาค เพื่อกระจายความเจริญและลดความเหลื่อมล้ำ โดยโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในพื้นที่ ประกอบด้วย 1) รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ผ่าน 5 จังหวัด ระยะทางรวม 220 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังพื้นที่ใช้เวลาเพียง 60 นาทีเท่านั้น สามารถประหยัดเวลาได้มาก
2) สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เป็นโครงการในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ เพิ่มความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคนต่อปี ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศได้ 3) ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าได้ 18 ล้าน TEU ต่อปี และที่สำคัญเป็นการก้าวสู่การเป็นท่าเรือสีเขียว (Green Port) ที่สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับประเทศ และ 4) ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 เป็นโครงการภายใต้การกำกับดูแลของการนิคมแห่งประเทศไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความจุก๊าซธรรมชาติและสินค้าเหลว
“กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญกับการใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ให้ประชาชนเดินทางด้วยความปลอดภัย สะดวกสบาย” นางมนพร กล่าวย้ำ