ผู้ชมทั้งหมด 879
“แอร์เอเชีย” เผยฟรีวีซ่าไทย-จีนหนุนอัตราขนส่งผู้โดยสาร 2 เดือนแรกเฉลี่ย 93% มั่นใจปี 67 ฟื้นตัวเต็มที่ คาดขนส่งผู้โดยสารเส้นทางบินจีนสูงถึง 1.3 ล้านคน พร้อมเปิดเส้นทางใหม่ “ดอนเมือง-ปักกิ่ง” จัดโปรโมชั่นเริ่มต้น 3,990 บาท ต่อเที่ยว จองได้ตั้งแต่ 26 มี.ค. – 7 เม.ย. 67 เริ่มบิน 1 ก.ค.นี้
นางสาวธันย์สิตา อัครฤทธิภิรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา ไทยแอร์เอเชียได้พาชาวจีนเดินทางมายังประเทศไทยมากกว่า 6 แสนคน หรือคิดเป็นร้อยละ 18 ของนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทย จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และเป็นโอกาสดีเมื่อรัฐบาลมีนโยบายฟรีวีซ่าระหว่างไทย-จีน ตั้งเเต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดกระเเสการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งสองประเทศคึกคักต่อเนื่อง
ดังนั้นทางไทยแอร์เอเชียจึงเปิดเส้นทางใหม่ บินตรง“ดอนเมือง-ปักกิ่ง” เป็นครั้งแรก โดยเปิดให้จองตั๋วเครื่องบินตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. – 7 เม.ย. 67 เริ่มบิน 1 ก.ค. 67 พร้อมจัดโปรโมชั่นเริ่มต้น 3,990 บาทต่อเที่ยว ทั้งนี้เพื่อดึงนักท่องเที่ยวจีน ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสของนักท่องเที่ยวไทยที่จะได้สัมผัสความมหัศจรรย์เเละยิ่งใหญ่ของเมืองปักกิ่ง จากการบินตรงกับสายการบินสัญชาติไทย และเป็นสายการบินเดียวที่บินตรงจากสนามบินดอนเมือง
“ปักกิ่ง ถือเป็นเส้นทางยอดนิยมของคนไทย และมีเสียงเรียกร้องต่อเนื่อง ให้เราเปิดบินตรงจากกรุงเทพ จากที่เรามีเพียงเปิดบินตรงจากเชียงใหม่เท่านั้น เราเชื่อมั่นว่าเส้นทางดอนเมือง-ปักกิ่ง ซึ่งเป็นเส้นทางบินไทย-จีน ลำดับที่ 12 นี้จะได้รับการตอบรับที่ดีมาก เพราะตอบโจทย์การเดินทางของนักท่องเที่ยวทุกๆ กลุ่ม ทั้งผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์คลาสสิค หรือชอบความอาร์ต ความทันสมัย เทคโนโลยี สัมผัสวิถีชีวิตพี่น้องชาวจีนสมัยใหม่ ซึ่งแอร์เอเชียพร้อมให้บริการแบบบินตรงทุกวันๆ ละ 1 เที่ยวบิน ใช้เวลาบินไม่เกิน 5 ชั่วโมง” นางสาวธันย์สิตา
ทั้งนี้ “ปักกิ่ง” ถือเป็นเมืองที่เหมาะกับการท่องเที่ยว มีสถานที่สำคัญขึ้นชื่อห้ามพลาดมากมาย อาทิ กำเเพ งเมืองจีน พระราชวังฤดูร้อน พระราชวังต้องห้าม จัตุรัสเทียนอันเหมิน สนามกีฬาแห่งชาติ รวมทั้งศูนย์และโซนเเสดงศิลปะที่หลากหลาย ถูกใจสายถ่ายภาพและคอนเทนต์เช่นกัน
อย่างไรก็ตามตั้งเเต่ต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ตลาดเส้นทางบินจีนของไทยแอร์เอเชียเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ย 2 เดือนเเรก (มกราคม-กุมภาพันธ์) อยู่ที่ร้อยละ 93 ประกอบกับนโยบายฟรีวีซ่าไทย-จีน ตั้งเเต่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณนักท่องเที่ยวไทย-จีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเทรนด์นักท่องเที่ยวไทยไปจีน ซึ่งคาดว่าเฉพาะเดือนมีนาคมนี้ คนไทยไปจีนจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าหรือประมาณ 1.8 หมื่นคนถึง 2 หมื่นคนต่อวันเมื่อเทียบกับเดือนมกราคมที่ยังไม่มีนโยบายฟรีวีซ่ามีรักท่องเที่ยวจีนมาไทยเฉลี่ยวันละประมาณ 6,000 คน และน่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าตลอดปี 2567 ไทยแอร์เอเชีย จะขนส่งผู้โดยสารในเส้นทางจีน สูงถึง 1.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 จากปี 2566
นางสาวธันย์สิตา กล่าวอีกว่า ในปี 2567 คาดว่าจะเป็นปีที่แอร์เอเชียฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในตลาดจีน เเละเส้นทางระหว่างประเทศ ซึ่งเราทำงานหนักร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาใช้จ่ายในไทย ซึ่งล่าสุดเราได้มีแคมเปญ Boarding pass Privilege สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติบินเข้าไทย สามารถนำบัตรโดยสารของแอร์เอเชียใช้เป็นส่วนลดกับ 18 พาร์ทเนอร์ เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าและกระตุ้นให้ทุกคนอยากมาเที่ยวไทยมากขึ้น
ขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้คนไทยพลาดโอกาสในการออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งเรามีเส้นทางบินที่ครอบคลุม หลากหลาย พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะประเทศจีน ที่แอร์เอเชียมีบินตรงถึง 12 เส้นทาง ชวนให้ทุกคนเปิดใจ สัมผัสประสบการณ์ประทับใจไปด้วยกัน
สำหรับเส้นทางบินของไทยแอร์เอเชีย ที่บินตรงเชื่อมไทย-จีน มี 12 เส้นทาง จากกรุงเทพ (ดอนเมือง) สู่ กวางโจว เซินเจิน เฉิงตู ฉางซา ฉงชิ่ง คุนหมิง หางโจว ซัวเถา อู่ฮั่น ซีอาน เซี่ยงไฮ้ ซึ่งถือเป็นสายการบินเบอร์1 ที่มีเส้นทางเชื่อมไทยเเละจีนมากที่สุด รวมความถี่สูงสุด 101 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
นอกจากตลาดภายในประเทศที่แข็งเเกร่ง ซึ่งแอร์เอเชียมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเเล้ว “ตลาดระหว่างประเทศ” ถือเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้แอร์เอเชียเป็นผู้นำที่ครองใจนักเดินทางทุกคน โดยเฉพาะการมีเส้นทางบินที่ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคทั้งอาเซียน อินเดีย เอเชียใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน