ผู้ชมทั้งหมด 2,634
“สุริยะ” เผยหารือ 6 สายการบิน เคาะแนวทางลดค่าตั๋วแพง จ่อเพิ่มเที่ยวบินช่วงเทศกาล พร้อมเล็งปรับลดเพดานราคาให้สอดคล้องกับต้นทุน-สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป นัดถกอีกรอบ 28 ก.พ.นี้ ก่อนเสนอ กบร. ไฟเขียว
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ได้สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เชิญสายการบินที่ให้บริการเส้นทางภายในประเทศ จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย สายการบินไทย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ สายการบินนกแอร์ และสายการบินไทยเวียตเจ็ท เข้าร่วมประชุมหารือเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีค่าโดยสารทางอากาศมีราคาสูงโดยเฉพาะช่วงเทศกาลท่องเที่ยว พร้อมทั้งหาแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
โดยสรุปผลการหารือ ดังนี้ กพท. ได้จัดทำมาตรการการแก้ไขปัญหาค่าโดยสารทางอากาศมีราคาสูง แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ มาตรการระยะสั้น โดยสายการบินได้เสนอขอเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในช่วงเทศกาล ทั้งในห้วงเวลาช่วงเช้า หรือช่วงเย็นตามที่จะดำเนินการได้ เพื่อให้ในระบบการจำหน่ายตั๋วมีราคาต่ำลง และเพิ่มทางเลือกแก่ผู้โดยสาร อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะต้องมีการประสานงานกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท., กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ก่อนที่จะเริ่มมาตรการต่อไป
ขณะที่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 นี้ คาดการณ์ว่า จะเป็นห้วงเวลาที่มีการเดินทางเป็นจำนวนมาก ดังนั้นสายการบินจึงอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางด้านราคา เพื่อช่วยเหลือผู้โดยสาร ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะต้องไปพิจารณาในรายละเอียดก่อนที่จะกลับมาประชุมกับ กพท. อีกครั้ง ในวันที่ 28 ก.พ. 2567 โดยจะต้องประสานกับหน่วยงานอื่นๆ ด้วย เช่น ทอท., ทย., บวท. และหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น เพื่อบูรณาการและสนับสนุนให้การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการระยะยาวนั้น กพท.ได้กำหนดแนวทางการพิจารณาโดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก รวมทั้งให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจากพบว่า การเดินทางของผู้โดยสารในตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงปกติ ประกอบกับในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมานั้น กพท. ได้มีการศึกษาเพื่อปรับเพดานอัตราค่าโดยสาร แต่ล่าสุด จากการเก็บข้อมูลต้นทุนค่าโดยสาร พบว่า เบื้องต้นสมควรที่จะมีการปรับปรุงเพดานอัตราค่าโดยสารจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
ทั้งนี้ ในการปรับปรุงเพดานอัตราค่าโดยสารดังกล่าว จะต้องมีการประสานกับสายการบิน เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วน พร้อมทั้งประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสายการบิน รวมถึงแนวทางการดำเนินการให้ครอบคลุมในทุกมิติ เนื่องจากสายการบินได้มีการจำหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้าไปแล้วประมาณ 1 ปี ทั้งนี้ ได้เร่งรัดให้การพิจารณาแนวทางแล้วเสร็จโดยเร็ว ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนเสนอต่อคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) พิจารณาให้ความเห็นชอบเพดานอัตราค่าโดยสาร และมีผลบังคับใช้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้โดยสาร และผู้ประกอบการสายการบินต่อไป