ผู้ชมทั้งหมด 285
เม.ย.นี้ ทางหลวงเปิดประมูล O&M มอเตอร์เวย์บางขุนเทียน–บ้านแพ้ว วงเงินรวมกว่า 1.5 หมื่นล้าน เล็งเปิดให้ประชาชนใช้บริการบางช่วงฟรี
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่โรงแรม อีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล รองอธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เป็นประธานเปิดงานการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน (Market Sounding) เพื่อประกอบการจัดทำร่างประกาศเชิญชวนร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน–บ้านแพ้ว สำหรับการให้เอกชนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการเปิดรับฟังความเห็นภาคเอกชนตาม พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ปี 62 ก่อนจัดทำร่างประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน คาดว่าจะสามารถประกาศเชิญชวน พร้อมขายซองได้ในเดือน เม.ย.67 นี้ จากนั้นจะใช้เวลาประมาณ3-4 เดือนในการพิจารณาประเมินข้อเสนอซึ่งกระบวนการน่าจะแล้วเสร็จช่วงปลายปี 67 และคาดว่าจะลงนามในสัญญาร่วมทุนได้ภายปี 68
สำหรับโครงการM 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน–บ้านแพ้ว เปิดให้เอกชน มีส่วนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ในรูปแบบ PPP Gross Cost แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ระยะ รวมระยะเวลาทั้งสิ้นไม่เกิน 32 ปีดังนี้
ระยะที่ 1 เอกชนเป็นผู้ออกแบบ ก่อสร้าง และติดตั้งงานระบบและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ด้วยระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow ทั้งโครงการ รองรับการเดินทางเชื่อมโยงถนนสายหลักตลอดแนวเส้นทางจำนวน 6 แห่ง พร้อมเชื่อมการเดินทางไร้รอยต่อกับโครงการทางพิเศษ สายพระราม3-ดาวคะนอง–วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปีวงเงิน 1,037 ล้านบาท
ระยะที่ 2 เอกชนเป็นผู้ดำเนินงานและบำรุงรักษาทั้งหมดสำหรับโครงการ ครอบคลุมทั้งงานโยธาที่รัฐเป็นผู้ลงทุน และงานระบบที่เอกชนเป็นผู้ลงทุน ตลอดจนรับผิดชอบในการสร้างและนำส่งข้อมูลรายการผ่านทาง (Transaction Generation) ให้แก่ภาครัฐ รวมทั้งดำเนินงานอื่นที่เกี่ยวข้องตามขอบเขตงานและเงื่อนไขที่กำหนดในระยะเวลาไม่เกิน 30 ปี วงเงิน 14,687 ล้านบาท โดยภาครัฐเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เอกชนลงทุนก่อสร้าง รวมถึงรายได้ทั้งหมดจากค่าธรรมเนียมผ่านทาง ส่วนเอกชนจะได้รับค่าตอบแทนจากการให้บริการ (AP) เป็นเวลา 30 ปีโดยรัฐจะเริ่มทยอยจ่ายคืนค่าตอบแทนการลงทุนนับจากปีที่เปิดให้บริการและจัดเก็บค่าผ่านทาง
นายปิยพงษ์ กล่าวด้วยว่า ข้อดีของโครงการที่น่าจะมีส่วนจูงใจให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน คือ โครงการไม่ใช่สัญญาสัมปทานที่เป็น PPP Net cost แต่เป็นการจ้างให้เอกชนดูแลในระยะยาว จึงไม่เหมือนโครงการอื่นๆดังนั้นเอกชนจึงไม่ได้รับความเสี่ยงเรื่องรายได้จากการเก็บค่าผ่านทางที่อาจเจอปัญหาสถานการณ์เศรษฐกิจที่ทำให้รถใช้ทางน้อยลงหรือสถานการณ์แพร่ระบาดจองไวรัสโควิด-19 แต่จะได้รับความเสี่ยงในเรื่องเทคนิค และการทำงานที่ต้องเป็นไปตาม KPI ที่ทล.กำหนดไว้ที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้ทาง ซึ่งเอกชนสามารถที่จะนำศักยภาพในความเชี่ยวชาญและความคล่องตัวมาใช้ในการบริหารความเสี่ยงนี้ได้
นายปิยพงษ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ความคืบหน้างานโยธา M82 ระยะทาง 24.7 กม. วงเงิน 29,236,616,000 บาท แบ่งงานก่อสร้างเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 บางขุนเทียน–เอกชัย ช่วง กม.11+960 พื้นที่กรุงเทพฯ สิ้นสุด กม.20+295 อ.เมืองสมุทรสาคร ระยะทาง 8.3 กม. วงเงิน 10,477,386,000 บาท แบ่งก่อสร้างเป็น 3 ตอน ปัจจุบันผลงานก้าวหน้า 88.973% คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมิ.ย.67 ซึ่ง ทล. อยู่ระหว่างการพิจารณาความพร้อมที่อาจจะทยอยเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการในบางช่วงไปก่อนโดยไม่มีการจัดเก็บค่าผ่านทาง
ส่วนช่วงที่2 เอกชัย–บ้านแพ้ว จุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับโครงการช่วงที่1 บางขุนเทียน–เอกชัย บริเวณ กม.20+295 อ.เมืองสมุทรสาคร สิ้นสุด กม.36+645 อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ระยะทาง 16.4 กม. วงเงิน18,759,230,000 บาท แบ่งก่อสร้าง 10 ตอน ปัจจุบันผลงาน 40.395% คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 68 เมื่อก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จทั้งโครงการ ทล.มีแผนที่จะเปิดให้บริการ โดยไม่จัดเก็บค่าผ่านทางไปก่อน จนกว่าจะดำเนินการงาน O&M แล้วเสร็จ คาดว่าจะ เปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบ และจัดเก็บค่าผ่านทางได้ในช่วงปลายปี 69