“พีระพันธุ์” ลงพื้นที่ ชุมพร-ระนอง สั่งพลังงานจังหวัด ยกระดับความเป็นอยู่คนในพื้นที่

ผู้ชมทั้งหมด 403 

“รมว.พลังงาน” ลงพื้นที่ ชุมพร – ระนอง เยี่ยมชมโรงสกัดน้ำมันปาล์ม และผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชน พร้อมมอบนโยบายให้พลังงานจังหวัด ลั่นประชาชนต้องเข้าถึงพลังงาน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่จังหวัดชุมพรเยี่ยมชมโรงสกัดน้ำมันปาล์มของบริษัท เจริญน้ำมันปาล์ม จำกัด ที่รับซื้อผลปาล์มจากชุมชนในพื้นที่โดยรอบ ซึ่งนอกจากบริษัทนำผลปาล์มมาสกัดเป็นน้ำมันแล้ว ยังนำส่วนต่างๆ ที่เหลือจากการทำน้ำมันปาล์ม เช่นน้ำเสียจากโรงงาน เมล็ดในปาล์ม ใยปาล์ม มาเพิ่มมูลค่าด้วยการนำมาผลิตไฟฟ้าใช้ในโรงงานอีกด้วย ทำให้สามารถลดรายจ่ายค่าไฟฟ้าและมีรายได้จากการขายไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในเวลาเดียวกัน จึงนับเป็นตัวอย่างที่ดีในการบริหารจัดการนำของเสียมาใช้ประโยชน์ และประชาชนในพื้นที่ก็มีรายได้ที่มั่นคงจากการปลูกปาล์มด้วย

ในช่วงบ่าย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้เดินทางไปยังสำนักงาน พลังงานจังหวัดระนอง เพื่อเยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชนที่พลังงานจังหวัดได้เข้าไปให้ความรู้และสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานเพื่อใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารชนิดต่างๆ จาก 7 จังหวัด คือจังหวัดระนอง ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล พังงา และ ชุมพร ตัวอย่างเทคโนโลยีที่โดดเด่นได้แก่ โรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการผลิตจากโรงอบแห้งนี้ ช่วยลดระยะเวลาในการอบแห้ง จาก 4 – 5 วัน เหลือเพียง 1 – 2 วัน ทำให้วิสาหกิจชุมชนสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ได้เร็วขึ้น และผลิตภัณฑ์ที่ได้มีความสะอาดมากกว่าการนำไปตากแดดโดยตรง ทำให้ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกในวิสาหกิจชุมชนมีรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ ได้มอบนโยบายให้กับพลังงานจังหวัดทั้ง 7 จังหวัดที่เข้าร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชน โดยขอให้พลังงานจังหวัดเป็นตัวแทนของกระทรวงพลังงานในการสำรวจพื้นที่ต่างๆ รวมถึงสอบถามความต้องการของประชาชนในส่วนที่กระทรวงพลังงานจะสามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้

“ภารกิจของกระทรวงพลังงานมีค่อนข้างมาก จากตัวอย่างที่เห็นวันนี้ ที่หลายวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีและความรู้จากพลังงานจังหวัด ทำให้ชาวบ้านสามารถแปรรูปอาหารและผลิตภัณฑ์ต่างๆ จนทำให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้น การส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานทดแทนให้กับประชาชน จึงมีความสำคัญ และเป็นหน้าที่ที่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานจังหวัดต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือ จึงอยากให้พลังงานจังหวัดทุกจังหวัดช่วยกันสำรวจพื้นที่ ทำหน้าที่ใกล้ชิดประชาชน รวมถึงพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งผมให้ความสำคัญมาก อยากให้ประชาชนได้มีไฟฟ้าใช้อย่างถ้วนหน้า มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และมีรายได้จากการใช้เทคโนโลยีพลังงาน จึงขอฝากพลังงานจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ เป็นตัวแทนของกระทรวงพลังงาน ช่วยกันสำรวจและสื่อสารมาที่ส่วนกลาง เพื่อให้สามารถวางกรอบในการทำงาน สร้างนโยบายตามที่ผมได้นำเสนอไว้ คือ การ รื้อ ลด ปลด สร้าง โดยนโยบายดังกล่าวนี้ ผมจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ”