ผู้ชมทั้งหมด 3,307
“นายก” ดันไทยทยานสู่ฮับการบินภูมิภาค ด้าน“สุริยะ”ชี้อุตสาหกรรมการบินฟื้นตัวจากโควิด19 แล้ว กพท.คาดปี67 เที่ยวบิน–ผู้โดยสารโตเท่าปี62
เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน CAAT OPEN HOUSE 2024 และร่วมแสดงความยินดี ในโอกาสที่กพท. ย้ายอาคารสำนักงานใหม่ เนื่องในโอกาสครบรอบการดำเนินงานปีที่ 8 ว่า ตนมีนโยบายให้ กพท.จัดสลอต(ตารางบิน) ช่วงฤดูร้อนเดือนเมษายนนี้ สำหรับท่าอากาศยานทุกแห่งของไทย โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมืองเชียงใหม่ และภูเก็ต เพื่อสนับสนุนให้สายการบินต่างๆเข้าไทยมากขึ้นเท่าที่เป็นไปได้ เบื้องต้นน่าจะเพิ่มสลอตได้ประมาณ30-40%เมื่อเทียบกับข่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ กพท.ต้องไปบริหารจัดการสลอตในช่ั่วโมงเร่งด่วนให้สามารถกระจายไปยังช่วงเวลาอื่นได้ โดยให้ไปหารือกับบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และสายการบินต่างๆ เพื่อให้เกิดผลดีต่อนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการ
อย่างไรก็ตามตนเขื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมการบินได้ฟื้นตัวจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 มาแล้ว เห็นได้ชัดเจนจากที่สายการบินมีความต้องการซื้อเครื่องบินเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เฉพาะสายการบินในไทยแต่เป็นสายการบินทั่วโลก แต่ผู้ผลิตยังไม่สามารถผลิตได้เพียงพอกับความต้องการในเวลานี้
นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคนี้ และมีความสามารถในการแข่งขันเทียบเท่าสนามบินสิงคโปร์และฮ่องกง โดยมอบหมายให้ ทอท.ไปเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย เบื้องต้นให้ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) รวมถึงปรับปรุงระบบเช็คอินให้ทันสมัย รวดเร็วมากขึ้น
นอกจากนี้ให้ ทอท. เร่งแผนพัฒนาสนามบินเชียงใหม่แห่งที่2 และภูเก็ตแห่งที่2 โดยย้ำให้เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทันที คาดว่าจะสามารถสรุปเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาได้ภายในสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกันให้ทอท.เร่งขยายขีดความสามารถของสนามบินเชียงใหม่โดยเร็ว เนื่องจากปัจจุบันสภาพของสนามบิน มีความทรุดโทรมอย่างมาก โดยต้องเร่งปรับปรุงให้เสร็จภายในเดือน ก.ค.นี้ ทั้งห้องน้ำ เพดาน พรหม และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆให้ทันสมัย เพื่อรองรับการให้บริการที่เพียงพอ
ด้าน นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผอ.กพท.กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์อุตสาหกรรมการบินยังอยู่ในช่วงขาขึ้นและยังไม่มีปัจจัยที่ทำให้เป็นขาลง ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าปี67 จะมีตัวเลขเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารกลับมาโตเทียบเท่าปี 62 ก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 โดยมีสัญญาณบวกจากนักท่องเที่ยวอินเดีย และจีน โดยเฉพาะนโยบายฟรีวีซ่าไทย-จีน น่าจะมีส่วนช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยมากขึ้น เนื่องจากเวลานี้จีนยังไม่คืนสิทธิสลอตที่ได้รับไป ต่างจากที่ผ่านมาจีนเคยคืนสลอตถึง80% และล่าสุดเมื่อเดือน ธ.ค. 66จีนคืนสลอตประมาณ40% ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นมาก
สำหรับสลอตในปี 66 นั้นเมื่อเทียบกับปี 62 ภาพรวมถูกใช้ไปจำนวน74% แบ่งเป็นในประเทศ 80% และต่างประเทศ 70% ทั้งนี้ในการบริหารจัดการสลอตนั้น มีแนวคิดว่า หากผู้โดยสารในประเทศสามารถเปลี่ยนการเดินทางมาในช่วงชั่วโมงที่ไม่เร่งด่วน เช่น ที่สนามบินภูเก็ตยังมีสลอตว่างอยู่ประมาณ 5-6 ชั่วโมง หรืออาจมีแนวทางจัดเก็บเซอร์ชาร์จในชั่วโมงเร่งด่วนเพิ่มขึ้น เป็นต้น ก็น่าจะช่วยกระจายสลอตในชั่วโมงเร่งด่วนได้อย่างมาก