OR ผนึกพันธมิตร ส่งเสริมเกษตรกรลาวปลูกกาแฟ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

ผู้ชมทั้งหมด 704 

OR จับมือ พันธมิตร จัดตั้งโครงการใช้ระบบวนเกษตรในการพัฒนาไร่กาแฟต้นแบบให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟใน สสป. ลาว

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการใช้ระบบวนเกษตรในการพัฒนาไร่กาแฟต้นแบบให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟใน สสป. ลาว (Agroforestry Coffee Plantation) ระหว่าง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท เอเชีย อินเวสท์เมนท์ จำกัด ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสทรัคชั่น โซล จำกัด (AIDC : Asia Investment, Development and Construction Sole Co., Ltd.) และ บริษัท พีทีที (ลาว) จำกัด โดยมี นายรชา อุทัยจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจต่างประเทศ OR พร้อมด้วย นายไกรพิท เปรมมณี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่กิจการต่างประเทศและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายพึดสะพา พูมมะสัก ประธานบริษัท AIDC และ นายธีระ วีระวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที (ลาว) จำกัด ร่วมลงนาม ณ ห้องประชุม Auditorium ชั้น 6 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคารซี

นายดิษทัต เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการร่วมกันศึกษาและพัฒนาโครงการใช้ระบบวนเกษตร (Agroforestry) ในการพัฒนาไร่กาแฟต้นแบบให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟใน สสป. ลาว เพื่อให้ได้ผลผลิตเมล็ดกาแฟดิบที่มีคุณภาพ และสามารถขยายไปถึงธุรกิจต้นน้ำของ คาเฟ่ อเมซอน ตลอดจนช่วยสร้างอาชีพให้แก่เกษตรกรชาวลาวให้มีรายได้ที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดย บริษัท พีทีที (ลาว) จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ คาเฟ่ อเมซอน ใน สปป.ลาว จำนวน 89 สาขา จะเป็นผู้รับซื้อเมล็ดกาแฟดิบที่เป็นไปตามมาตรฐานของ คาเฟ่ อเมซอน จาก AIDC ผู้เป็นเจ้าของพื้นที่ไร่กาแฟใน สปป.ลาว โดย AIDC จะเป็นผู้ลงทุนการทำระบบวนเกษตร และเป็นผู้ดำเนินการจัดการพื้นที่ 

นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจาก ปตท. ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตทั้งในและต่างประเทศ โดยการจดทะเบียนคาร์บอนเครดิตเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับไร่กาแฟ และคาร์บอนเครดิตที่เกิดขึ้นจากโครงการจะช่วยให้แต่ละบริษัทสามารถบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Carbon รวมไปถึงการนำไปต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มในตลาดระดับสากล

อีกทั้ง ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) บรรลุเป้าหมาย OR 2030 อย่างมีประสิทธิภาพ