ผู้ชมทั้งหมด 634
“ไออาร์พีซี” คาดปี 2567 ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ในกรอบ 83-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ใกล้เคียงไตรมาส4 ปีนี้ ขณะที่สเปรดปิโตรเคมี ทยอยฟื้นตัวตามทิศทางเศรษฐกิจโลก หลังเชื่อผ่านพ้นจุดต่ำสุดไตรมาส 3 ปี2566 ไปแล้ว ลั่น เตรียม COD โครงการ Floating Solar เฟส 2 ช่วง ธ.ค.ปีนี้ พร้อม COD โครงการ UCF ตามแผนไตรมาส 1 ปี2567
นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บัญชีและการเงิน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยในงาน Oppday Q3/2023 IRPC เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2566 โดยระบุว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัท คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยอยู่ที่ 83-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ใกล้เคียงกับราคาไตรมาส 4 ปีนี้ ที่คาดว่าจะอยู่ในระดับ 82-83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นไปตามทิศทางความต้องการใช้(ดีมานด์)ที่เริ่มฟื้นตัว ขณะที่ซัพพลายใหม่ๆไม่ได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิม และส่งผลให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สเปรด)ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ใกล้เคียงไตรมาส 4 ปี2566 ส่วนสเปรดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปี 2566 เนื่องจากมองกว่า ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดในไตรมาส 3ปี2566 ไปแล้ว และเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี2566 เป็นต้นไป แต่จะเป็นลักษณะค่อยๆฟื้นตัว ตามทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ทอยยปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้(ดีมานด์) ปิโตรเคมีทยอยดีขึ้น
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 4 ปีนี้ คาดว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 82-83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อ่อนตัวลงจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ที่มีราคาอยู่ที่ 86-87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาสเปรดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมไตรมาส 4 ปีนี้ เช่น ดีเซล คาดว่าจะปรับลดลงจากไตรมาส 3 ประมาณ 3-4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ยังอยู่ที่ระดับ 21-22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าค่อยข้างดี โดยภาพรวมสเปรดน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่วนสเปรดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ยังคงได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่ได้ฟื้นตัวอย่างที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน รวมถึงยังเกิดปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย ทำให้สเปรดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอ่อนตัวลงตั้งแต่ปลายปี 2565 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาส 3 ปีนี้ หรือ เรียกได้ว่า ไตรมาส 3 เป็นจุดต่ำสุดแล้ว ฉะนั้นในไตรมาส 4 ปีนี้ สเปรดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี จะไม่ได้รับแรงกดดันเท่ากับไตรมาส 3 ที่ผ่านมา
“ในปี 2567 บริษัท ได้รับการอนุมัติจากบอร์ด ให้กู้เงินในกรอบไม่เกิน 12,000 ล้านบาท เพื่อนำมารีไฟแนนซ์เงินกู้ระยะสั้นของบริษัท ที่ปัจจุบันมีอยู่ราว 11,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ก้อน ก้อนแรก 2,000 ล้านบาท และอีกก้อน 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระคืนในปีหน้า ทั้งนี้ เพื่อลดต้นทุนทางการเงินและบริหารจัดการสภาพคล่องให้พร้อมรองรับการลงทุนในอนาคต”
ส่วนความคืบหน้าการลงทุน โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลตามมาตรฐานยูโร 5 (Ultra Clean Fuel Project: UCF) มูลค่าเงินลงทุน 420 ล้านดอลลาร์ จะแล้วเสร็จตามแผนที่ โดยมีกำหนดเปิดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์(COD) ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567
และโครงการติดตั้งทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) จ.ระยอง เฟสที่ 2 ของบริษัท จะแล้วเสร็จและเริ่ม COD ได้ในเดือนธ.ค.นี้