ผู้ชมทั้งหมด 1,512
AOT ประเมินเปิดรับนักท่องเที่ยวระยะแรกหนุนผู้โดยสารต่างประเทศเพิ่มขึ้น 4-5 พันคนต่อวัน ส่วนระยะที่ 2 นำร่องโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ คาดผู้โดยสารต่างประเทศเพิ่มขึ้น 3-5 หมื่นคนต่อวัน ขณะช่วงสงกรานต์คาดผู้โดยสารภายในประเทศเพิ่มขึ้น 1.2-1.3 แสนคนต่อวัน
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT กล่าวว่า จากกรณีที่รัฐบาลวางแผน 4 ระยะในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นจะส่งผลให้ผู้โดยสารต่างประเทศที่มาใช้บริการท่าอากาศยานของ AOT จะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยในระยะแรกที่เริ่มนำร่องตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เปิดรับนักท่องเที่ยวยุโรปที่ได้รับวัคซีนและใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด – 19 เดินทางไปยัง 6 จังหวัด จ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และเชียงใหม่ สามารถที่จะกักตัว 7 วันภายในโรงแรมก่อนจะออกจากโรงแรม ถือว่าเป็นนโยบายที่ดี คาดว่าจะส่งผลให้มีผู้โดยสารต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4,000 – 5,000 คนต่อวัน จากก่อนหน้านี้มีผู้โดยสารต่างประเทศที่ใช้บริการท่าอากาศยานของ AOT ราว 700-800 คนต่อวัน
ขณะที่การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติระยะที่ 2 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัวเริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นั้นเฉพาะพื้นที่ จ.ภูเก็ต ภายใตโมเดล “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” ซึ่งในระยะนี้เป็นการทดสอบระบบโมเดลคาดว่า ผู้โดยสารต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 30,000 – 50,000 คนต่อวัน และในระยะที่ 3 เริ่ม 1 ตุลาคม 2564 นักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัวที่นำร่อง 6 จังหวัดในเบื้องต้นนั้นผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ต้องดูในระยะที่ 2 ว่าได้ผลมากน้อยแค่ไหน และการเปิดระยะที่ 4 เริ่ม 1 มกราคม 2565 ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศไม่ต้องกักตัวหากมีใบรับรองการฉีดวัคซีนนั้นก็ต้องประเมินผลในระยะที่ 3 ก่อนเช่นกันว่าได้ผลอย่างไร
ส่วนผู้โดยสารภายในประเทศช่วงเดือน มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาผู้โดยสารที่ใช้ท่าอากาศยานของ AOT มีผู้โดยสารประมาณ 105,000 คนต่อวันเพิ่มขึ้นมาใกล้เคียงกับช่วงเดือน พฤศจิกายน 2563 ก่อนที่โควิด-19 จะระบาดรอบ 2 ราว 127,000 คนต่อวัน คาดว่าช่วงเดือน เมษายน 2564 ซึ่งมีวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นในระดับ 120,000 – 130,000 คนต่อวัน