ผู้ชมทั้งหมด 15,871
อัพเดท โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม งานก่อสร้างโยธาคืบหน้า 99% คาดติดตั้งระบบเดินอีก 3 ปี พร้อมเปิดให้บริการฝั่งตะวันออกก่อน แต่ต้องลุ้นศาลปกครองสูงสุดชี้ขาดคดี BTSC ฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และรฟม. ภายในปีนี้ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพูรอนั่งต้นปี 67
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร นั้นในขณะนี้การดำเนินงานก่อสร้างงานโยธาในส่วนของโครงการด้านตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี มีความคืบหน้าแล้ว 99% อยู่ในขั้นตอนของการเก็บงานในบางสัญญา
ส่วนงานติดตั้งระบบเดินรถไฟฟ้าก็ต้องรอให้มีการลงนามสัญญางานสัมปทานเดินรถไฟฟ้าก่อน ซึ่งในปัจจุบันอยู่ระหว่างศาลปกครองสูงสุดตัดสินชี้ขาดในคีดที่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC) ได้ยื่นฟ้อง คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ และรฟม. ในประเด็นการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม หากศาลปกครองสูงสุดตัดสินภายในปีนี้ก็พร้อมลงนามในสัญญาสัมปทาน ดังนั้นถ้าสัญญางานสัมปทานได้เริ่มผู้รับเหมาก็จะมาติดตั้งงานระบบเดินรถไฟฟ้าสายส้มตะวันออกก่อนเลย ซึ่งการติดตั้งระบบเดินรถคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 ปี เมื่อดำเนินการติดตั้งระบบเดินรถแล้วเสร็จก็พร้อมเปิดให้บริการทันทีปี 69 โดยไม่ต้องรอให้การก่อสร้างในส่วนด้านตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตรแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 5-6 ปี หลังจากที่มีการลงนามในสัญญา
นายภคพงศ์ กล่าวถึงการเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) ว่า ขณะนี้ทราบว่าทางเอกชนผู้รับสัมปทาน คือ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) อยู่ระหว่างทดสอบระบบรถไฟฟ้าสายสีชมพู และมีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายของทางเอกชนที่กำหนดไว้ ซึ่งทางรฟม.ก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้สามารถเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าให้ได้เร็วที่สุดเช่นกัน แต่ก็ต้องมั่นใจเรื่องความปลอดภัยด้วย รฟม.เป็นหน่วยงานกำกับดูแลก็ต้องดูในรายละเอียดทุกอย่างให้มีความปลอดภัยกับผู้โดยสาร 100% จากการประเมินของตนคิดว่าจะสามารถเปิดเดินรถได้ประมาณต้นปี 2567 แต่ถ้าทางบีทีเอสทำได้เร็วรฟม.ก็พร้อมถ้าทุกย่างประเมินแล้วปลอดภัยสำหรับผู้โดยสาร
ทั้งนี้ในปัจจุบัน รฟม.ได้เตรียมงบประมาณปี 2567 เพื่อจ่ายค่าสนับสนุนงานก่อสร้างในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้แก่เอกชน ตามที่สัญญากำหนดแบ่งจ่าย 22,500 ล้านบาท จำนวน 10 งวด แบ่งเป็นงวดละ 2,250 ล้านบาท โดยในสัญญากำหนดไว้ว่า รฟม.จะต้องจ่ายเงินส่วนนี้เมื่อมีการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูแบบเต็มระบบ โดยหากเอกชนพร้อมเปิดเต็มระบบ รฟม.ก็พร้อมจ่ายเงินส่วนนี้ทันทีภายใน 45 วันหลังจากเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตามหากเอกชนจะเปิดให้บริการในช่วงสถานีมีนบุรี-สถานีหลักสี่ก่อนก็สามารถดำเนินการได้ แต่จะยังไม่ได้รับเงินค่าสนับสนุนงานก่อสร้างจากรฟม. จนกว่าจะเปิดให้บริการเดินรถเต็มระบบ