ผู้ชมทั้งหมด 13,073
กบน. ไฟเขียว ดึงเงินกองทุนน้ำมันฯรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกดีเซล ไม่เกิน 32 บาทต่อลิตร หลังสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตฯลงวันที่ 20 ก.ค.นี้ หวังช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ประมาณ 32 บาทต่อลิตรภายหลังจากมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตรจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาบริหารจัดการราคาน้ำมันดีเซลดังกล่าว ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ต่อเนื่องไปอีกเป็นระยะเวลาหนึ่งตามสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะดำเนินการได้ โดยการรักษาเสถียรภาพระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือประชาชนไม่ให้เกิดผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในยามที่เศรษฐกิจประเทศกำลังฟื้นตัว และจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจะพิจารณาบริบทของปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบในการบริหารเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงในตลาดน้ำมัน และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ต้องเตรียมพร้อมสภาพคล่องเพื่อรองรับความผันผวนนั้น รวมถึงต้องคำนึงถึงการบรรเทาผลกระทบต่อรายจ่ายด้านพลังงานของประชาชน
“วันนี้ กองทุนน้ำมันฯ เรียกเก็บเงินของกองทุนสำหรับดีเซล ประมาณ 4.04 บาทต่อลิตร และในวันที่ 21 ก.ค.2566 จะต้องจ่ายชดเชย ประมาณ 1.65 บาทต่อลิตร เพื่อรักษาราคาขายปลีกให้ไม่เกิน 32 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นการประเมินจากสมมติฐานราคาน้ำมันเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2566 อยู่ที่ ประมาณ 99 เหรียญต่อบาร์เรล และค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.76 บาทต่อดอลลาร์ฯ”
ปัจจุบัน แม้ว่าฐานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะยังคงติดลบ แต่สถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นหลังจากได้เงินกู้ยืมเข้ามาเติมในระบบ และสามารถเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่ผ่อนคลายลง แต่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงมีความผันผวนด้วยปัจจัยกำลังการผลิตของกลุ่มโอกเปก และความกังวลในเศรษฐกิจที่ยังคงถดถอย โดยราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซลในตลาดโลกช่วงมกราคม – มิถุนายน 2566 อยู่ที่ 98.64 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลง 29.38 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจากช่วงสิ้นปี 2565
สำหรับฐานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ วันที่ 16 กรกฎาคม 2566 ติดลบ 49,829 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 4,316 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG 45,513 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ มีรายรับเฉลี่ยเดือนละ กว่า 1.07 หมื่นล้านบาท
นายวิศักดิ์ กล่าวอีกว่า สนกช.เล็งนำเสนอบอร์ด กบน. พิจารณาชงเรื่องต่อรัฐบาลชุดใหม่เพื่อพิจารณาปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตร เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันยังอยู่ในภาวะวิกฤติ เพราะราคาขายปลีกดีเซล ยังสูงกว่า 30 บาทต่อลิตร และสถานะกองทุนฯยังติดลบ
ส่วนสถานการณ์ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) เฉลี่ยระหว่างวันที่ 11-24 ก.ค.2566 LPG Cargo อยู่ที่ 404.89 เหรียญฯต่อตัน โดยมีการเก็บเงินจากกองทุนฯ 2 กิโลกรัมละ 0.67 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีก เฉลี่ย 25.87 กิโลกรัม หรือ ราคาขายปลีกถัง 15 กิโลกรัม ยังตรึงราคาตามมติ กบน.อยู่ที่ 423 บาท ถึงสิ้นเดือนส.ค.นี้