ทอท.ดันธุรกิจดาวรุ่งพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสนามบินสุวรรณภูมิเปิดประมูลส.ค.นี้

ผู้ชมทั้งหมด 483 

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชนหรือ ทอท. เร่งผลักดันธุรกิจดาวรุ่งพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ Non-Aero เป็น 50% ภายใน 3 ปี ลดปัจจัยเสี่ยงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจอุตสาหกรรมการบินในอนาคต ซึ่งธุรกิจดาวรุ่งที่ว่าก็คือการพัฒนาพื้นที่ 723 ไร่ เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยจะเริ่มเปิด ประมูลในเดือน ..นี้ และคาดว่าในเดือน .. 2566 จะได้ตัวเอกชน เริ่มเข้าพื้นที่ดำเนินงานได้ช่วงปลายปีนี้

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชนหรือ ทอท. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ขณะนี้ ทอท.อยู่ระหว่างดำเนินการประกวดราคาโครงการศูนย์จัดการสินค้าเกษตรแบบครบวงจร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) บนที่ดินแปลงถนนวัดศรีวารี น้อย 723 ไร่ ด้วยวิธีการประมูลเสนอค่าตอบแทน ซึ่ง ทอท.ได้เปิดให้เอกชนที่สนใจเข้ามาซื้อเอกสารการยื่นข้อเสนอการดำเนินงานแล้ว และจะเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในวันที่ 8 ส.ค.นี้ จากนั้นไม่น่าจะเกินเดือนก.ย.66 น่าจะได้ตัวเอกชนผู้ชนะการประมูล และในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.66 เอกชนน่าจะเริ่มทยอยเข้าพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างได้ 

โครงการดังกล่าวจะพัฒนาเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในการขนถ่ายสินค้าระหว่างทางบกกับทางอากาศ และเป็นจุดศูนย์รวมตรวจสอบคุณภาพสินค้าทางการเกษตรก่อนส่งออก ที่ ทอท.ดำเนินการในนาม บริษัท ท่าอากาศยานไทย ทาฟ่า โอเปอเรเตอร์ จำกัด (AOT TAFA Operator Co.,Ltd : AOTTO) รวมถึงจัดทำอาคารรองรับสินค้าเน่าเสียง่าย ทั้งนี้เพื่อรองรับกิจกรรมการขนส่งทางอากาศให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ ทอท.ยังมีพื้นที่ที่ ทสภ.แปลง 43 ประมาณ 200 ไร่ โดยมีแผนพัฒนาเป็นโครงการAirport City และพื้นที่เขตปลอดภาษี ประกอบด้วย อาคารศูนย์การค้า ศูนย์ประชุม และโรงแรม เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารเดินทางได้อย่างสบายมากขึ้น ซึ่งวางแผนว่าในช่วงกลางปี 67 จะว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาดำเนินโครงการศึกษาเพื่อหานักลงทุนเข้ามาดำเนินการ จากนั้นปลายปี 67 น่าจะเปิดประมูลได้ และเริ่มดำเนินงานในปี 68 คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 70-71

อย่างไรก็ตามการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ดังกล่าวถือเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มให้กับ ทอท. อย่างมาก และจะเป็นรายได้จากธุรกิจนอกเหนือการบิน (Non-Aero) ซึ่งปัจจุบัน ทอท.มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจการบิน (Aero) และ Non-Aero อยู่ที่ 55 ต่อ 45 แต่ตั้งเป้าว่าหลังจากพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เกิดประโยชน์มากขึ้นภายใน 3 ปี สัดส่วนของธุรกิจ Aero และ Non-Aero จะอยู่ในระดับเท่ากันคือ 50 ต่อ 50