ผู้ชมทั้งหมด 9,018
กรมการขนส่งทางบกยกระดับระบบการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ที่เว็บไซต์ https://reserve.dlt.go.th/reserve/ ต้องยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaID ก่อนจองหมายเลขทะเบียนรถเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เริ่ม 1 มิ.ย. 66
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ณ ปัจจุบันการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ได้รับความนิยมจากประชาชนเพราะสะดวก รวดเร็ว กรมการขนส่งทางบกได้ยกระดับระบบการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตให้มีความปลอดภัยทางด้านข้อมูลส่วนบุคคลมากขึ้น โดยได้เพิ่มขั้นตอนการยืนยันตัวตนก่อนการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ https://reserve.dlt.go.th/reserve/ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการยืนยันตัวบุคคลตามมาตรฐานของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA (Personal Data Protection Act) และป้องกันการแอบอ้างเอาชื่อบุคคลอื่นมาดำเนินการจองทะเบียนรถยนต์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับข้อมูลส่วนบุคคลหรือสูญเสียทรัพย์ได้
ขั้นตอนการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์
1. เข้าเว็บไซต์ https://reserve.dlt.go.th/reserve/ เลือกเมนู “จองหมายเลขทะเบียน”
2. ระบบจะเข้าสู่หน้ายืนยันตัวตน ให้ทำการยืนยันตัวตนโดยสแกน QR code ผ่านแอปพลิเคชัน ThaID
3. เมื่อยืนยันตัวตนแล้ว ระบบจะกลับมาที่หน้าหลัก กด “ยอมรับหลักเกณฑ์” เพื่อเข้าสู่หน้าจอถัดไป
4. ทำการเลือกประเภทรถที่ต้องการจองหมายเลขทะเบียน
5. เลือกประเภทการจอง
6. ระบุข้อมูลรายละเอียดของผู้จอง หมายเลขตัวถังรถ/หมายเลขทะเบียนที่ต้องการจอง (กรณีเป็นบุคคลธรรมดา ระบบจะใส่ชื่อ – นามสกุล และเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้โดยอัตโนมัติ)
สำหรับการยืนยันตัวตน เจ้าของรถจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaID ผ่านระบบไอโอเอส (IOS) หรือ แอนดรอยด์ (Android) เพื่อลงทะเบียนระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางระบบดิจิทัล DOPA-Digital ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สามารถดำเนินการลงทะเบียนด้วยตนเอง โดยการถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชนและภาพใบหน้า ผ่านแอปพลิเคชัน ThaID ในโทรศัพท์มือถือของตนเอง (ดูขั้นตอนการลงทะเบียนยืนยันตัวตนอย่างละเอียดได้ที่ https://www.bora.dopa.go.th/app-thaid/ ) โดยจะเริ่มให้มีการยืนยันตัวตนก่อนจองหมายเลขทะเบียนรถในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
กรมการขนส่งทางบกขอเตือน!! ระวังสูญเสียเงิน สูญเสียเอกสารสำคัญ มิจฉาชีพหลอกขโมยข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้อื่นไปใช้ในทางมิชอบ หรือใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมในลักษณะหลอกลวงเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล (Identity Theft) ไปใช้หาประโยชน์ในทางมิชอบ