ผู้ชมทั้งหมด 580
เอ็กโก กรุ๊ป ยันเดินหน้าขยายลงทุนธุรกิจไฟฟ้า และธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง จ่อชิงโควตาพลังงานสะอาดรอบใหม่อีก 3,000 MW เผยกำไรสุทธิไตรมาส 1/2566 จำนวน 2,022 ล้านบาท พร้อมลุยก่อสร้าง 2 โครงการ “เอ็กโก โคเจนเนอเรชั่น ส่วนขยาย” จังหวัดระยอง และโครงการโรงไฟฟ้า “หยุนหลิน” ในไต้หวัน เสร็จตามแผนปี67
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป (EGCO) เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป ยังมองหาโอกาสในการสร้างความเติบโตในธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่องอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนของต้นทุนเชื้อเพลิงและสภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ด้วยความเชี่ยวชาญ ในการบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าและต้นทุนเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนความสามารถในการบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุนอย่างเหมาะสม
โดยการขยายธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในประเทศ เอ็กโก กรุ๊ป เตรียมพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแบบ FiT 3,600 เมกะวัตต์ ส่วนขยายที่จะเปิดรอบเพิ่มเติม ขณะเดียวกันได้ร่วมมือกับพันธมิตรศึกษาและพัฒนาการใช้พลังงานทางเลือก เช่น เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) รวมถึงขยายการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานใหม่ ๆ ผ่านบริษัท “อินโนพาวเวอร์” สำหรับในต่างประเทศ เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งต่อยอดและแสวงหาโอกาสลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาด
ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า “เอ็กโก โคเจนเนอเรชั่น ส่วนขยาย” จังหวัดระยอง กำลังผลิต 74 เมกะวัตต์ มีความก้าวหน้าในการก่อสร้างประมาณ 60% คาดว่าจะแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 และโครงการโรงไฟฟ้า “หยุนหลิน” ในไต้หวัน กำลังผลิต 640 เมกะวัตต์ จนถึงไตรมาสที่ 1/2566 สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้แล้วจำนวน 16 ต้น กำลังผลิต 128 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ในฐานะหนึ่งในผู้ถือหุ้นได้เร่งรัดติดตามความก้าวหน้าของโครงการอย่างใกล้ชิด และร่วมปรับแผนการก่อสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2567
สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เอ็กโก กรุ๊ป มีรายได้รวม 15,125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 และมีกำไรสุทธิ 2,022 ล้านบาท ลดลง 51% หรือ 2,093 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากโรงไฟฟ้าพาจู อีเอส ในเกาหลีใต้ โรงไฟฟ้าไซยะบุรีและโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ใน สปป.ลาว มีปริมาณการขายไฟฟ้าลดลง อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากรายได้ ที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าเคซอนและซานบัวนาเวนทูรา ในฟิลิปปินส์
“ในไตรมาสนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ประสบความสำเร็จ ในการปิดดีลโรงไฟฟ้า “ไรเซ็ก” กำลังผลิต 609 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จของเอ็กโก กรุ๊ป ในตลาดไฟฟ้าระดับโลก ต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้า “ลินเดน โคเจน” และโครงการ “เอเพ็กซ์” ปูทางสู่ความร่วมมือทางธุรกิจ ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสในการลงทุนเพิ่มเติมในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติควบคู่กับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่มีคุณภาพสูงในตลาดไฟฟ้าของประเทศสหรัฐอเมริกาในอนาคต”