ผู้ชมทั้งหมด 705
GULF ลั่นเดินเครื่องโรงไฟฟ้าเข้าระบบเพิ่มอีก 3,000 เมกะวัตต์ หนุนสิ้นปีกำลังการผลิตในพอร์ตแตะ 12,000 เมกะวัตต์ ดันรายได้โตทะลุ 50% พร้อมลุยลงทุนตามแผน 5ปี วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท เน้นพลังงานหมุนเวียน แย้ม ยังมองโอกาสทำดีล M&A เพิ่ม
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัท เตรียมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ พีดี (GPD) หน่วยผลิตที่ 1 และ 2 กำลังการผลิตรวม 1,325 เมกะวัตต์, บันทึกส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้น 49% ในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson ในสหรัฐฯ ขนาด 1,200 เมกะวัตต์, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Mekong Wind ที่เวียดนาม ขนาด 120 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ที่โอมาน จะเปิดเพิ่มอีก 130 เมกะวัตต์
ส่งผลให้ปีนี้ บริษัท จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เข้าระบบเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น 3,000 เมกะวัตต์จากปีก่อนมีกำลังผลิต 9,500 เมกะวัตต์ หรือเพิ่มขึ้นเป็น 12,000 เมกะวัตต์ในสิ้นปีนี้
อีกทั้ง บริษัท ยังจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH รวมทั้งกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ไทยแท้งค์ เทอร์มินัล จํากัด (TTT) ในสัดส่วน 28.57% ส่งผลให้คาดว่า รายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย
“ปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 95,076 ล้านบาท ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่จะเข้าพอร์ตเพิ่มขึ้น 3,000 เมกะวัตต์ และรับรู้กำไรจากการลงทุน INTUCH และลงทุนในไทยแท้งค์ เทอร์มินัล”
สำหรับแผนลงทุนในปีนี้ บริษัท ยังมุ่งมั่นขยายการลงทุนตามแผน 5 ปี (ปี 2566-2570) บริษัทตั้งไว้ที่ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท จะเน้นการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ทั้งโซลาร์ พลังงานลม และพลังน้ำ ประมาณ 70%, โรงไฟฟ้าก๊าซฯ และธุรกิจก๊าซฯ ประมาณ 25-26%, โครงสร้างพื้นฐาน ประมาณ 2% และธุรกิจดิจิทัล ประมาณ 2%
อีกทั้ง บริษัท ยังอยู่ระหว่างมองหาโอกาสการขยายการลงทุน รวมทั้งการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งจะเน้นการลงทุนพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ทั้งโครงการพลังงานลม โครงการโซลาร์ และโรงไฟฟ้าขยะ เป็นต้น