ผู้ชมทั้งหมด 552
กฟผ. จับมือ ธอส. ส่งเสริมคนไทยเป็นเจ้าของบ้านประหยัดพลังงาน ตั้งเป้า 3 ปีเกิดการสร้างบ้าน 5,000 หลัง พร้อมคำปรึกษาการสร้างบ้านเบอร์ 5 ตรวจประเมินแบบบ้าน สนับสนุนบริการทางการเงินพิเศษ “โครงการบ้านอยู่เย็นเป็นสุข” แก่ผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย และประชาชนทั่วไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ เป็นผู้แทน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมพิธีลงนามความร่วมมือโครงการยกระดับบ้านประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืนเพื่อคนไทย กับ นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 3 อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี
นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า กฟผ. ได้ดำเนินโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย หรือโครงการบ้านเบอร์ 5 (https://homeno5.egat.co.th) ตั้งแต่ปี 2560 โดยขับเคลื่อนผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดด้านการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุการก่อสร้าง และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งนวัตกรรมระบบบริหารจัดการพลังงาน สนับสนุนการดำเนินมาตรการกำหนดมาตรฐานการใช้พลังงานในบ้านที่อยู่อาศัย (Residential Energy Code ; REC) ตามแผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศ มีแบบบ้านเบอร์ 5 จำนวน 61 แบบ สร้างแล้วเสร็จ 5,400 หลัง ช่วยลดค่าไฟฟ้าของผู้อาศัยได้ประมาณ 44 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้ประเทศประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 11 ล้านหน่วยต่อปี ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับบ้านทั่วไป เทียบเท่าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ประมาณ 5,300 ตันต่อปี
กฟผ. มุ่งมั่นยกระดับการดำเนินโครงการดังกล่าว จึงร่วมมือกับ ธอส. สนับสนุนการให้บริการทางการเงิน เพื่อส่งเสริมและผลักดันกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเลือกซื้อบ้านที่อยู่อาศัยประสิทธิภาพสูงแก่ประชาชนทั่วไป
สำหรับความร่วมมือกับ ธอส. ในครั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันให้เกิดการสร้างบ้านประหยัดพลังงาน ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 3 ปี (ปี 2566-2568) จำนวน 5,000 หลัง ซึ่งจะสามารถลดการใช้พลังงานของประเทศได้ประมาณ 32.5 ล้านหน่วยต่อปี หรือ 130 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 14,600 ตันต่อปี โดยบ้านประหยัดพลังงานในแต่ละหลังคาดว่าจะสามารถลดการใช้พลังงานได้ประมาณ 40-60% นอกจากนี้ความร่วมมือกันระหว่างกฟผ. และธอส. ยังเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาคส่วนต่างๆ ในการลดก๊าซเรือนกระจกตามทิศทางการพัฒนาประเทศ มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม
นายวิทยา กล่าวว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐสังกัดกระทรวงการคลังที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ยินดีที่ได้ร่วมมือกับ กฟผ. ในครั้งนี้ โดยพร้อมเป็นกลไกสำคัญในการให้บริการทางการเงินด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านประหยัดพลังงานแก่ผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย ประชาชนทั่วไปให้สามารถ ซื้อหรือก่อสร้างบ้านประหยัดพลังงาน ตามแบบบ้านเบอร์ 5 ที่ผ่านตามข้อกำหนดโครงการบ้านเบอร์ 5 ของกฟผ. ภายใต้โครงการบ้านอยู่เย็นเป็นสุขของธนาคาร โดยในปี 2566 ธอส. คาดว่าจะสามารถอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย ประชาชนทั่วไปในการซื้อหรือสร้างบ้านประหยัดพลังงานภายใต้ “โครงการบ้านอยู่เย็นเป็นสุข” มากกว่าปี 2565 ที่มียอดอนุมัติสินเชื่อรวมแล้วกว่า 13,000 ล้านบาท เนื่องจากในปัจจุบันผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยและประชาชนให้ความสนใจที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น