ผู้ชมทั้งหมด 741
กทพ. ติวเข้มเอกชน 13 รายก่อนยื่นข้อเสนอประมูลทางด่วนกะทู้-ป่าตอง 7 เม.ย.นี้ คาดลงนามในสัญญาได้ช่วงธ.ค.66 และเริ่มก่อสร้างได้ก่อนเปิดให้บริการในปี 71
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานประชุมก่อนการยื่นข้อเสนอของเอกชน (Pre-bid Meeting) โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ตว่า เพื่อให้เอกชนทั้ง ไทย จีน และฝรั่งเศส ที่เข้ามาซื้อเอกสารการประมูลครั้งนี้ จำนวน 13 รายได้รับทราบข้อมูลรายละเอียดของโครงการอย่างรอบด้าน รวมทั้งเข้าใจรายละเอียดการจัดทำข้อเสนอได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้ ได้นำเสนอถึงความเป็นมาของโครงการฯ ที่ระบุว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 อนุมัติให้ กทพ. ดำเนินงานโครงการทางพิเศษสายกะทู้–ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โดยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ในขณะที่ภาคเอกชนรับผิดชอบการออกแบบรายละเอียดและการก่อสร้าง (รวมถึงค่าควบคุมงาน) และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance : O&M) โดยเอกชนเป็นผู้จัดเก็บรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมด
ทั้งนี้เอกชนจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ลงทุนทั้งหมดให้แก่ภาครัฐก่อนเริ่มเปิดบริการในลักษณะของ BTO (Build-Transfer-Operate) มีระยะเวลาร่วมลงทุนรวม 35 ปี นับจากวันที่ กทพ. มีหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed) โดยแบ่งขอบเขตความรับผิดชอบระหว่างภาครัฐและเอกชนเป็น 2 ระยะ ได้แก่
ระยะที่ 1 การออกแบบและก่อสร้าง ระยะเวลาไม่มากกว่า 4 ปี นับจากวันที่ กทพ. มีหนังสือแจ้งให้เริ่มปฏิบัติงาน ((Notice to Proceed)
ระยะที่ 2 การดำเนินงานและบำรุงรักษา ระยะเวลานับจากสิ้นสุดระยะเวลาสำหรับงานในระยะที่ 1 โดยมีระยะเวลารวม ทั้งระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ไม่มากกว่า 35 ปี มูลค่าเงินลงทุนโครงการรวม 14,670.57 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 5,792.24 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง (รวมค่าควบคุมงาน) 8,878.33 ล้านบาท คาดการณ์ปริมาณจราจร ณ ปีเปิดให้บริการ ประมาณ 71,000 คัน/วัน (รถยนต์ 36,000 คัน/วัน รถจักรยานยนต์ 35,000 คัน/วัน) ผลตอบแทนด้านการเงิน NPV 1,734.37 ล้านบาท Equity IRR เป้าหมาย 8.50% B/C Ratio 1.12 เท่า Payback Period 21 ปี ซึ่งโครงการนี้มีความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ โดยมีอัตราผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจ (EIRR) เท่ากับ 20.44%
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า กทพ. จะจัดให้มีการเยี่ยมชมพื้นที่ก่อสร้างโครงการที่จังหวัดภูเก็ตในวันที่ 10 ก.พ. 2566 เพื่อให้เอกชนได้รับทราบข้อมูลรายละเอียดของโครงการอย่างรอบด้าน รวมทั้งเข้าใจรายละเอียดการจัดทำข้อเสนอได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน พร้อมทั้งตอบข้อสงสัยในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเอกชนยื่นซองข้อเสนอในวันที่ 7 เม.ย. 2566 และคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากับภาคเอกชนที่ได้รับคัดเลือกได้ภายในธ.ค. 2566 ก่อนจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงปี 2566-2570 และจะสามารถเปิดให้บริการได้ทันการจัดงาน Specialised Expo 2028 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงเดือน มี.ค. ถึง มิ.ย. 2571
ทั้งนี้ โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงการเดินทางจากอำเภอกะทู้ไปยังหาดป่าตอง และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับคนในพื้นที่ นักท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยโครงการฯ จะสามารถช่วยบรรเทาปัญหาการจราจร และอุบัติเหตุบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4029 รวมทั้งสามารถใช้เป็นเส้นทางอพยพกรณีเกิดภัยพิบัติได้อีกด้วย