ผู้ชมทั้งหมด 951
วันนี้ (20 ม.ค. 66) กระทรวงพลังงานนำสื่อมวลชนสัญจรเข้าเยี่ยมชมโครงการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มน้ำดื่มบ้านศรีโพธาราม ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี ซึ่งใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ในการผลิตน้ำดื่มตามโครงการเพิ่มสมรรถนะด้านการบริหารและจัดการพลังงานครบวงจรในชุมชนระดับตำบลและเครือข่ายพลังงานชุมชน ปี 2564 และโครงการระบบผลิตก๊าซชีวภาพจากหลุมฝังกลบมูลฝอย เพื่อขยายการใช้พลังงานทดแทนในภาคครัวเรือน ต.บงตัน อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่
นายชำนาญ กายประสิทธิ์ พลังงานจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้เข้ามีส่วนสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงาน ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) แบบ On Grid ที่เชื่อมต่อระบบสายส่งจากการไฟฟ้า 5 กิโลวัตต์ ให้กับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มน้ำดื่มบ้านศรีโพธาราม ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ภายใต้โครงการเพิ่มสมรรถนะด้านการบริหารและจัดการพลังงานครบวงจรในชุมชนระดับตำบลและเครือข่ายพลังงานชุมชน ปี 2564 โดยสำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงใหม่ได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยประเมินศักยภาพ ข้อมูลเชิงเทคนิคและวิชาการ สำหรับเทคโนโลยีพลังงานที่จะส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนฯ
ผลลัพธ์จากการส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานช่วยลดรายจ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณร้อยละ 90 มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10,000 บาท/เดือนจากการผลิตน้ำขายได้มากขึ้น และมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเพราะเชื่อมั่นในเทคโนโลยีพลังงานที่นำมาช่วยลดรายจ่าย โดยโครงการนี้นอกจากจะช่วยประหยัดค่าพลังงานแล้วยังเป็นแนวทางช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง พึ่งตนเอง ลดผลกระทบจากราคาพลังงานหรือค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วยลดการพึ่งการการนำเข้าก๊าซธรรมาชาติที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าในประเทศได้อีกด้วย
สำหรับ โครงการระบบผลิตก๊าซชีวภาพจากหลุมฝังกลบมูลฝอย เพื่อขยายการใช้พลังงานทดแทนในภาคครัวเรือน ต.บงตัน อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เป็นอีกโครงการที่กระทรวงพลังงานสนุบสนุนเทคโนโลยีพลังงานระบบก๊าซชีวภาพแบบเครือข่าย ที่มีระยะทางรวมแล้วไม่น้อยกว่า 27 กิโลเมตร ให้กับกลุ่มผู้ใช้ก๊าซชีวภาพ ต.บงตัน อ.ดอยเต่า จำนวน 300 ครัวเรือน โดยก๊าซจากหลุมฝังกลบขยะมีประมาณ 70,000 ลบ.ม./วัน ใช้ผลิตไฟฟ้า 30,000 ลบ.ม./วัน และส่งไปให้ชุมชนบ้านป่าขาม และแม่ยุย เขตเทศบาลตำบลบ้านตาล อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ จำนวน 200 ครัวเรือน (เดิม) ยังเหลือก๊าซที่ต้องเผาทิ้งอีกเป็นจำนวนมาก ประมาณ 39,500 ลบ.ม./วัน การส่งให้ชุมชนใช้ประโยชน์ในโครงการนี้ 500-600 ลบ.ม./วัน จึงเกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งหลุมฝังกลบ และครัวเรือน โดยจ่ายก๊าซชีวภาพให้ 300 ครัวเรือน ตลอด 24 ชั่วโมง ปริมาณกำหนดไว้ไม่เกิน 1,000 ลบ.ม./วัน
โครงการดังกล่าวสามารถทดแทนการใช้ก๊าซหุงต้ม (LPG) ในครัวเรือนได้ ประมาณ 0.25 กิโลกรัม/ครัวเรือน/วัน เป็นระยะเวลา 365 วัน/ปี หรือประมาณ 91.25 กิโลกรัม/ปี/ครัวเรือน มีครัวเรือนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 300 ครัวเรือน ช่วยลดการใช้ก๊าซหุงต้มได้ไม่น้อยกว่า 27,375 กิโลกรัม/ปี หรือคิดเป็นมูลค่า 574,875 บาท/ปี (ที่ราคา LPG 21 บาท/กิโลกรัม) เทียบเท่า 31.95 ตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ/ปี
“การสนับสนุนชุมชนกลุ่มครัวเรือนใช้ก๊าซชีวภาพแทนการใช้ก๊าซ LPG ที่ปัจจุบันราคาสูงขึ้น ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ครัวเรือนได้อย่างเป็นรูปธรรม และลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาอุดหนุนราคาก๊าซ LPG อีกทั้งยังใช้หลัก BCG Model ในส่วนของ Circular Economy (เศรษฐกิจหมุนเวียน) โดยเป็นการนำวัสดุต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด มุ่งสู่ Zero Waste หรือการลดปริมาณของเสียให้น้อยลง หรือเท่ากับศูนย์อีกด้วย”