ผู้ชมทั้งหมด 764
AOT วันที่ 8 ม.ค. 66 จีนผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นสัญญาณที่ดีหนุนผู้โดยสารโต แต่ยังไม่ปรับประเมินตัวเลขผู้โดยสารปี 66 ใหม่ มั่นใจท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีพร้อมรองรับผู้โดยสาร ลุ้นไตรมาส 1 ไฮซีซั่นหนุนผลประกอบการเป็นบวก
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT กล่าวว่า ประเทศจีนประกาศยกเลิกมาตรการกักตัว สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่ 8 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป ในขณะเดียวกันจีนยังได้เตรียมตัวผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ลงจากการควบคุมสูงสุดอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของฟื้นตัวของผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความพร้อมรองรับผู้โดยสารหากจีนผ่อนคลายมาตรการโควิดตามที่ประกาศ
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น AOT ยังคงประเมินภาพรวมตัวเลขผู้โดยสารในปีงบประมาณ 2566 ของท่าอากาศยาน 6 แห่ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ไว้เช่นเดิม คือ มีจำนวน 96 ล้านคน ฟื้นตัว 68% เมื่อเทียบกับระดับผู้โดยสารก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งจะมีการปรับการประเมินตัวเลขผู้โดยสารใหม่หรือไม่ก็ต้องรอดูจีนประกาศยกเลิกมาตรการกักตัว สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่ 8 ม.ค. 2566 ก่อนว่าเป็นอย่างไรถึงจะประเมินตัวเลขผู้โดยสารของปีงบประมาณ 2566 ใหม่
ขณะที่แผนการให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (แซทเทิลไลท์) ในปัจจุบันยังยึดตามแผนเดิม คือ เปิดให้บริการในเดือน ก.ย. 2566 เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่คาดว่าจะสูงสุดในช่วงตารางบินฤดูหนาว แต่อย่างไรก็ดี AOT มีความพร้อมจะเปิดให้บริการอาคารดังกล่าวในช่วงเดือน เม.ย. 2566 หากจำนวนผู้โดยสารเกินความสามารถในการรองรับของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งก็ต้องรอดูผู้โดยสารจากจีนหลังจากประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวว่าจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างไร
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1 ของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.- ธ.ค.2565) AOT คาดว่าผลประกอบการจะมีกำไรสุทธิเป็นบวกเล็กน้อย เนื่องในช่วงเดือนธันวาคมเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง และเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ของการเดินทาง