AOTเร่งสรุปแผนส่วนต่อขยายสุวรรณภูมิเสนอ“อนุทิน”มี.ค.นี้

ผู้ชมทั้งหมด 1,114 

AOT จ้างไออาตา-ไอเคโอ ปรับปรุงผลศึกษาแนวทางพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ หวังได้ข้อสรุปเสนอให้ “อนุทิน” เคาะกลาง มี.ค.นี้สร้างอาคารส่วนต่อขยาย 3 แห่ง ด้านทิศเหนือ-ออก-ตก พร้อมกันวงเงินรวม 5.7 หมื่นล้าน ขณะที่ SAT 1 คืบ 95% แล้ว พร้อมเปิดบริการ เม.ย.65

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า แผนการดำเนินการก่อสร้างโครงการพัฒนาส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) วงเงินประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท โครงการพัฒนาส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 1 ด้านทิศตะวันตก (West Wings)  และตะวันออก (East Wings) วงเงินรวมประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท กรอบวงเงินรวมทั้งหมด 5.7 หมื่นล้านบาทตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) นั้นในขณะนี้ได้ว่าจ้างสมาคมขนส่งทางอากาศ (ไออาตา) ปรับปรุงผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่เหมาะสมใหม่ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานแล้ว

ทั้งนี้ในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาในการทบทวนฯ ไม่นาน เพราะไออาตาเพิ่งทำการศึกษาเรื่องดังกล่าวแล้วเสร็จไปเมื่อเดือน พ.ย.62 และได้ใช้ข้อมูลในการศึกษาเป็นบริบทปัจจุบันอยู่แล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จ และสามารถเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาได้ประมาณกลางเดือน มี.ค.64 ส่วนของการว่าจ้างให้สำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ปรับปรุงผลการศึกษาฯ นั้น เวลานี้อยู่ระหว่างการเจรจากับไอเคโอ เพื่อขอให้นำผลการศึกษา และข้อมูลของไออาตามาพิจารณาได้หรือไม่ เพราะเกรงว่าหากต้องศึกษาโดยใช้ข้อมูลใหม่ทั้งหมดจะไม่ทันกับกรอบเวลาที่ที่ประชุมกำหนดว่าจะต้องแล้วเสร็จภายใน 60 วัน หรือประมาณกลางเดือน มี.ค.นี้

“เดิมเรามีแผนจะก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศเหนือก่อน  จากนั้นจึงจะสร้าง ด้านทิศตะวันตกและตะวันออก แต่ที่ประชุมมีมติให้สร้างพร้อมกันทั้งหมด ดังนั้น คาดว่าอาจจะจำเป็นต้องลดขนาดพื้นที่ของอาคารด้านทิศเหนือลงซึ่งอาจทำให้ก่อสร้างลดลงน้อยกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มโครงการด้านทิศเหนือและด้านตะวันออกได้ก่อน เพราะมีพื้นที่เชื่อมต่อกัน” นายนิตินัยกล่าว

ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้าง ทสภ. ระยะ(เฟส) ที่ 2 วงเงินกว่า 6.2 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ภาพรวมการก่อสร้างทั้งโครงการมีความคืบหน้ากว่า 95% โดยงานโครงสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรืออาคารแซทเทิลไลท์ (SAT1) งานภูมิสถาปัตยกรรม และการตกแต่งภายใน คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ประมาณเดือน ก.ค.64 ส่วนงานระบบภายในอาคาร อาทิ การติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ระบบตรวจจับวัตถุระเบิด และการติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) หรือรถไฟฟ้าไร้คนขับ จะแล้วเสร็จประมาณเดือน ต.ค.64 จากนั้นจะเริ่มทดสอบความเสถียรของระบบทั้งหมดเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือน เม.ย.65