ผู้ชมทั้งหมด 865
AMATA ชะลอแผนลงทุนโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเมืองอัจฉริยะย่างกุ้งในประเทศเมียนมา รอสถานการณ์การเมืองนิ่งหลังเกิดการรัฐประหาร หวังนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ย้ำศักยภาพพื้นที่ในเมียนมาเป็นโอกาสของนักลงทุน
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะคอร์ปเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในขณะนี้ส่งผลกระทบต่อแผนการพัฒนาโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเมืองอัจฉริยะย่างกุ้ง ในประเทศเมียนมาทำให้เกิดความล่าช้า และอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของกลุ่มลูกค้าที่อยู่ระหว่างการเจรจาเข้ามาลงทุนในพื้นที่ ประมาณ 20 ราย ทั้งกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกา ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้มักจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายการแทรกแซงทางการเมือง ดังนั้นจึงอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศเมียนมา
อย่างไรก็ตาม AMATA คงต้องติดตาม ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรอความชัดเจนนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเมียนมาว่าจะมีนโยบายออกมาอย่างไร ซึ่ง AMATA ก็ได้เตรียมแผนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว หากเกิดกรณีที่นักลงทุนยังไม่ตัดสินใจเข้ามาก็จะตัดสินใจในการเลื่อนการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบไฟฟ้าและระบบน้ำ แต่เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติก็จะเดินหน้าพัฒนาต่อไป
ทั้งนี้โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเมืองอัจฉริยะย่างกุ้งนั้นปัจจุบันได้มีการพัฒนาพื้นที่ในระยะแรกแล้ว โดยใช้งบลงทุนประมาณ 140 ล้านบาท ประมาณ 200 เอเคอร์ หรือ ประมาณ 500 ไร่ ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยที่ AMATA ได้รับใบอนุญาต (license) จากรัฐบาลเมียนมาในการประกอบกิจการนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เมืองย่างกุ้งบนพื้นที่ประมาณ 2,000 เอเคอร์ หรือ ประมาณ 5,000 ไร่
สำหรับแผนการพัฒนานิคมฯโครงการในเมียนมา เป็นการขยายพื้นที่เพื่อรองรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้น ในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงาน ถือเป็นพื้นที่มีศักยภาพที่มีความพร้อมในการสร้างความได้เปรียบทางการค้า เนื่องจากเป็นประเทศที่เปิดใหม่ มีต้นทุนค่าแรงที่ต่ำ ประกอบกับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในการส่งออก ดังนั้นหากรัฐบาลเมียนมา ใช้หลักการในระบอบประชาธิปไตย ก็จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและต่างประเทศได้