“นิตินัย” ชี้ปี 66 อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกโกลาหลแน่!!! เหตุปริมาณผู้โดยสารกับผู้ให้บริการไม่สมดุล

ผู้ชมทั้งหมด 502 

“นิตินัย” คาดปี 67 ทอท.กำไรหลักพันล้านบาท ชี้ปีหน้าอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกโกลาหลแน่ เหตุปริมาณผู้โดยสารกับผู้ให้บริการไม่สมดุล ส่วนไทยผู้โดยสารจะกลับมาถึง 96 ล้านคน และจะเข้าสู่ปกติ 142 ล้านคนเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด พร้อมเปิดบริการอาคารแซทเทิลไลท์ 1 ตามแเผนในก.ย. 66

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในปี 66 คาดการณ์ว่า ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่ากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึง68% หรือประมาณ 96 ล้านคน เมื่อเทียบกับจำนวนผู้โดยสารก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 และคาดว่าในปี 2567 จะกลับมาฟื้นตัวเป็นปกติเทียบเท่ากับก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งมีจำนวนผู้โดยสารถึงจำนวน 142 ล้านคน

โดยในปี 66 จะเป็น 1 ปีที่อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกเกิดความโกลาหลอย่างมาก เนื่องจากเกิดความไม่สมดุลระหว่างปริมาณผู้โดยสารกับผู้ให้บริการส่วนต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการพัฒนาการให้บริการกลับสู่ภาวะปกติประมาณ 1 ปี และหลังจากนั้นก็จะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติและจะคงอยู่เช่นนั้นไปอีกเป็น 10 ปี

อย่างไรก็ตาม ทอท.คาดการณ์ว่าในไตรมาส 1 ของปีงบฯ 2567 ( ต.ค.- ธ.ค.66) ซึ่งเป็นช่วงตารางบินฤดูหนาว และฤดูการท่องเที่ยวจะมีปริมาณผู้โดยสารกลับมาฟื้นตัวสูงสุดเทียบเท่ากับก่อนเกิดโควิด-19 โดยเฉลี่ยน่าจะมีปริมาณผู้โดย 2 แสนคนต่อวัน ส่งผลให้ทั้งปีงบฯ 67 ทอท.จะสามารถทำกำไรได้ไม่ต่ำกว่าหลักพันล้านบาท

นายนิตินัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (แซทเทิลไลท์) นั้น ทอท.ยังตั้งเป้าเปิดให้บริการในเดือน ก.ย. 66 ซึ่งเวลานี้กำลังติดตามปริมาณผู้โดยสารในช่วงตารางบินฤดูร้อนที่จะเริ่มในเดือน เม.ย.66 โดยหากพบว่าเกิดปัญหาความแออัด ทอท.จะพิจารณาปรับแผนการเปิดให้บริการใหม่อีกครั้ง แต่จากการประเมินปริมาณผู้โดยสารในเบื้องต้นยังพบว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังสามารถรองรับผู้โดยสารได้ไม่มีปัญหาความแออัดภายในอาคารผู้โดยสาร อาจมีเพียงการติดขัดบริเวณหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ซึ่งการเร่งเปิดให้บริการอาคารแซทเทิลไลท์เพื่อแก้ปัญหานี้ก็อาจยังไม่ตอบโจทย์ที่แท้จริง เพราะอาคารแซทเทิลไลท์ไม่มีพื้นที่ด่าน ตม.เพิ่มเติม มีเพียงพื้นที่บริการผู้โดยสารเพิ่มอีก 15 ล้านคนเท่านั้น

นายนิตินัย กล่าวว่า ทอท.ได้แจ้งไปยังผู้ประกอบการร้านค้าที่เช่าพื้นที่ภายในอาคารแซทเทิลไลท์ให้เตรียมแผนเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งในส่วนนี้รวมคู่สัญญาร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ของกลุ่มคิงเพาเวอร์ด้วย ขณะที่สัญญาสัมปทานของดิวตี้ฟรีปัจจุบัน ทอท.ยังเรียกเก็บในลักษณะส่วนแบ่งรายได้ (Revenue sharing) ที่คำนวณจากรายได้ อยู่ที่ 233 บาทต่อผู้โดยสาร 1 คน แต่หากปริมาณผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นไปอยู่ในระดับที่การันตีไว้ในสัญญา หรือ 66 ล้านคน ทอท.ก็จะเรียกเก็บรายได้จากกลุ่มคิงเพาเวอร์ตามที่เสนอไว้ในสัญญาในลักษณะค่าตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee) ต่อไป