ผู้ชมทั้งหมด 366
ก.พลังงาน กระตุก! ก.ต่างประเทศเร่งเจรจา OCA ไทย-กัมพูชา ทางรอดวิฤกตพลังงาน ยันเตรียมด้านเทคนิค การสำรวจ พร้อมเข้าพื้นที่ทันทีหากเจรจาเขตแดนลงนามจบ
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การประชุมระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค หรือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) ประจำปี พ.ศ. 2565 (ค.ศ. 2022) ที่จะจัดขึ้นอย่างเป็นทางการช่วงวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 ในประเทศไทยไม่มีวาระการเจรจาเรื่องพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (Overlapping Claims Area-OCA) แต่ถ้าจะมีการเจรจาก็จะเป็นการเจรจาแบบทวิภาคีกันทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งก็ต้องถามกระทรวงการต่างประเทศเพราะบทบาทนำในการเจรจาเรื่อง OCA ไทย -กัมพูชานั้นอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่กระทรวงพลังงาน
อย่างไรก็ตามในส่วนของกระทรวงพลังงานนั้นได้เตรียมข้อมูลความพร้อมไว้อยู่แล้ว ทั้งด้านเทคนิค เรื่องการสำรวจ กระทรวงพลังงานมีคณะทำงานแล้ว ส่วนเรื่องเขตแดนเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาเจรจา ซึ่งกระทรวงต่างประเทศต้องเร่งเจรจาเรื่องเขตแดนให้จบ เมื่อได้ข้อสรุปกระทรวงพลังงานก็สามารถเดินหน้าทำงานได้ทันที ขณะเดียวกันพื้นที่ทับซ้อน OCA ไทย -กัมพูชา ยังเป็นทางออกการแก้ไขปัญหารับวิกฤตพลังงานในอนาคตอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา เคยได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2544 โดยมีสาระสำคัญ คือให้ทั้ง 2 ฝ่ายเร่งเจรจาเพื่อบรรลุความตกลงเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อน โดยแบ่งพื้นที่ เป็น 2 ส่วน คือ
1) พื้นที่ทับซ้อนเหนือเส้นละติจูดที่ 11 องศาเหนือขึ้นไป ให้แบ่งเขตทางทะเลอย่างชัดเจนตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับ
2)พื้นที่ทับซ้อนใต้เส้นละติจูดที่ 11 องศาเหนือลงมา ให้พัฒนาพื้นที่ดังกล่าวร่วมกันโดยให้ดำเนินการทั้ง 2 ส่วนไปพร้อมกันโดยไม่อาจแบ่งแยกได้และให้ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย -กัมพูชา เป็นกรรมการเจรจาเพื่อดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์
ทั้งนี้หากมีการเจรจากันใหม่ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ทำบันทึกข้อตกลงกันใหม่ระหว่างรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งหากเจรจาตกลงกันได้ภายในรัฐบาลนี้อีก 10 ปี จึงจะนำเชื้องเพลิงก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันจากพื้นที่ทับซ้อน OCA ขึ้นมาใช้ได้