ผู้ชมทั้งหมด 1,097
หลายประเทศได้ประกาศเป้าหมาย “Net Zero” หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ เพื่อร่วมบรรเทาภาวะโลกร้อน ขณะที่ประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมาย Net Zero ในปี 2065 ส่วนภาคเอกชนหลายบริษัทก็มีนโยบายลงทุนด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และได้ประกาศเป้าหมาย “Net Zero” ที่แตกต่างกันออกไป
ขณะที่บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ชู 3 กลยุทธ์ ปรับกระบวนการผลิต มุ่งธุรกิจพลังงานสะอาด ใช้ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ พร้อมร่วมกลุ่ม ปตท. สร้างต้นแบบใช้เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และปลูกป่าสร้างพื้นที่สีเขียว
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า ในภาวะการเกิดความเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศและภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง IRPC ได้ตั้งเป้าหมายสู่องค์กร Net Zero Emission ในปี 2060 โดยตั้งเป้าสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 20% ภายในปี 2030 จากปีฐาน 2018 โดยที่ ผ่านมา IRPC มีความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงอย่างต่อเนื่องเพื่อไปสู่ Net Zero Company ผ่านการดำเนินการด้วย 3 กลยุทธ์ ERA ดังนี้
Eco – operation & technology การปรับปรุงกระบวนการผลิตภายในบริษัทฯ ลดการใช้พลังงานผ่านการกำหนดเป้าหมายโดยใช้ดัชนีชี้วัดการใช้พลังงาน (Energy Intensity Index: EII) และเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดทดแทน พร้อมทั้งกำลังดำเนินการศึกษาการใช้พลังงานทางเลือก โดยการลงทุนในโครงการ Solar Rooftop และ โครงการ Solar Farm เพื่อใช้สำหรับกระบวนการผลิตในโรงงานต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ IRPC ประสบความสำเร็จจากการสร้างสวนโซลาร์ลอยน้ำในบ่อน้ำดิบสำรองของ บริษัทฯ บนพื้นที่รวมกว่า 200 ไร่ ซึ่งได้บูรณาการคุณค่าในเชิงการดำเนินธุรกิจที่เสริมความมั่นคงทางด้านพลังงาน และในด้านสิ่งแวดล้อม โดยช่วยลดภาวะโลกร้อนจากการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 9,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้บนเกาะเสม็ดทั้งเกาะ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 10,000 ไร่
นอกจากนี้ยังมีโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลตามมาตรฐานยูโร 5 (Ultra Clean Fuel Project: UCF) ซึ่งจะช่วยลดปัญหามลภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 และเป็นไปตามนโยบายของ IRPC ที่มุ่งมั่นสู่การเป็นโรงงานสีเขียว (Eco Factory) โดยคาดว่าจะพร้อมดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในต้นปี 2024 รวมถึงการแสวงหาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และธุรกิจใหม่ๆ ที่ปลดปล่อยคาร์บอนต่ำ
Reshape portfolio มุ่งแสวงหานวัตกรรมที่ส่งเสริมธุรกิจคาร์บอนต่ำ ธุรกิจพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ
Absorption and offset โดยได้ดำเนินการร่วมกับกลุ่ม ปตท. 2 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการปลูกป่า เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2. โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage: CCS) หรือ CCS Hub Model
ทั้งนี้ CCS เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตได้ในระดับหลายล้านตันต่อปีและนำไปกักเก็บในชั้นธรณีที่มีศักยภาพและเหมาะสมแบบปลอดภัยและถาวร (Permanent Geological Storage) โดยไม่มีการปล่อยกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้อีก โดยจะเริ่มศึกษาในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี เพื่อเป็นต้นแบบสำคัญในการขยายผลสู่ระดับประเทศได้ในอนาคต
นอกจากนี้ได้สร้างการมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ผ่านกลยุทธ์ความยั่งยืน 3C ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) การบริหารจัดการตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) การสร้างคุณค่าเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน (Creating Shared Value) และIRPC ยังให้การสนับสนุนผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ผ่านโครงการ “Decarbonize Thailand Startup Sandbox” เพื่อสร้างเครือข่ายสตาร์ทอัพ ขับเคลื่อนการแสวงหาธุรกิจใหม่โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม (New S-Curve) เกี่ยวกับการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจพร้อมมุ่งไปสู่ Net Zero Emission
IRPC ดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุและพลังงาน เพื่อชีวิตที่ลงตัว” และเชื่อว่าธุรกิจสามารถเติบโตควบคู่ไปกับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติและความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยึดหลักการดำเนินการตามพฤติกรรมพึงประสงค์ G3 (จี-ทรี) Good ดี ด้วยใจรับผิดชอบ – Great เก่ง ทันโลกธุรกิจ – Growth to success กล้า เพื่อความสำเร็จ เชื่อมั่นว่า CEO ท่านใหม่จะสามารถสานต่อ และนำ IRPC ไปสู่วิสัยทัศน์ได้อย่างแน่นอน “IRPC สร้างสิ่งที่ดีเพื่ออนาคต”