ผู้ชมทั้งหมด 747
BEM มั่นใจแนวโน้มรายได้ปี 65 เติบโตดีกว่าปี 64 หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ โรงเรียนเปิดเทอม หนุนผู้โดยสาร MRT พุ่ง 80% คาดปริมาณทั้งปีอยู่ที่ 3-4 แสนคนต่อวัน ขณะที่ปริมาณรถใช้ทางด่วนกลับมาอยู่ในระดับ 1 ล้านคันต่อวัน
นายอัลวิน จี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM คาดว่ารายได้รวมในปี 2565 จะเติบโตดีกว่าปี 2564 จากที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 11,481 ล้านบาท เนื่องการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ การกลับมาทำงานในออฟฟิศมากขึ้น โรงเรียนเปิดเทอม ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 มีผู้ใช้บริการอยู่ที่ 3.2 แสนคนต่อวัน คิดเป็น 80% ของจำนวนผู้โดยสารเมื่อปี 2562 และคาดว่าทั้งปีจะมีปริมาณผู้โดยสาร 3-4 แสนคนต่อวัน ขณะที่ ผู้ใช้บริการบนทางด่วนของ BEM อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านคันต่อวัน คิดเป็น 85% ของจำนวนผู้ใช้บริการฯ เมื่อปี 2562
ส่วนผลตอบรับการชำระค่าโดยสารบนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ด้วยบัตรเครดิต คิดเป็น 5% ของการชำระค่าบริการด้วยเงินสด ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดให้บริการการชำระค่าโดยสารผ่านบัตรเดบิต โดยคาดว่าจะได้เปิดใช้ภายใน 1-2 เดือน หรือภายในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้
นอกจากนี้ BEM ยังได้มีการคงอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ในราคาเดิม เริ่มต้น 17 บาท สูงสุด 42 บาทจนถึงสิ้นปี 2565 เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย ลดภาระของประชาชนอีกด้วย พร้อมให้ส่วนลดพิเศษ สำหรับเด็กและผู้สูงอายุ 50% และสำหรับนักเรียน นักศึกษา 10% พร้อมมีการขยายเวลาจัดโปรโมชั่นเที่ยวโดยสาร 30 วัน สำหรับผู้โดยที่ถือบัตร MRT และMRT Plus ออกไปอีก 1 ปี จากวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 ถึง 31 กรกฎาคม 2566
อย่างไรก็ตาม ภายในสิ้นปี 2565 บริษัทมีแผนพัฒนาให้มีโปรโมชั่น เมื่อมีการชำระค่าโดยสารด้วยบัตร EMV ในส่วนของการใช้บริการทางด่วน เพื่อลดผลกระทบจากการปรับค่าผ่านทางที่ได้มีการจำหน่ายคูปองในราคาเดิม ให้กับผู้ที่ใช้บริการในเส้นทางศรีรัช-วงแหวนรอบนอก จตุจักร-ฉิมพลี และทางพิเศษอุดรรัถยา ที่ด่านเมืองทองธานี จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2565