ปตท. ส่งสัญญาณ เตรียมเก็บอัตราชาร์จไฟฟ้ารถอีวี ส.ค.นี้ 

ผู้ชมทั้งหมด 735 

ปตท.ส่งสัญญาณ เตรียมเก็บอัตราชาร์จไฟฟ้า รถอีวี เดือนส.ค.นี้ หลังครบกำหนดให้ทดลองใช้ฟรี ขณะที่ OR เร่งขยายปั๊มชาร์จแตะ 450 แห่งสิ้นปีนี้ รองรับการใช้ครอบคลุมทั่วประเทศ ลั่น พร้อมผนึก “ฟ็อกซ์คอนน์” ต่อยอดการลงทุนอิเล็กทรอนิกส์ แนะรัฐพิจารณาสิทธิประโยชน์ดึงลงทุนในไทย

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT กล่าวบรรยายในงาน FTI Expo 2022 ที่จัดขึ้นโดนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับพันธมิตรองค์กรชั้นนำ โดยระบุว่า บูธจัดแสดงสินค้าของกลุ่มปตท. จะมุ่งไปสู่เรื่องของพลังงานแห่งอนาคต Future Energy ที่เป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐให้บรรลุเป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำ รวมถึงการสร้างระบบนิเวศน์และสังคมที่ดีขึ้น โดยเรื่องของธุรกิจใหม่ จะเน้นการลงทุนพลังงานทดแทนการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ธุรกิจแบตเตอรี่ ที่เป็นการสร้างการเติบโตในธุรกิจสีเขียว เช่น ปตท.มีการลงทุนเรื่องของแบตเตอรี่ ก็ได้หารือกับผู้ประกอบการรถบัส เพื่อสนับสนุนให้เปลี่ยนจากเครื่องยนต์สันดาปไปสู่อีวี โดยปตท.จะสนับสนุนเรื่องของแบตเตอรี่ให้ 

ปั๊มชาร์จไฟฟ้าของOR จะเริ่มเก็บค่าบริการชาร์จในเดือน ส.ค.นี้ หลังจากได้เปิดให้ประชาชนทดลองชาร์จฟรีมาครบกำหนดแล้ว และแม้ว่าจะเก็บค่าชาร์จไฟฟ้า แต่ก็ยังเป็นอัตราที่ถูกกว่าราคาน้ำมันมาก ขณะเดียวกัน OR ก็จะเดินหน้าขยายปั๊มชาร์จไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จากปัจจุบัน อยู่ที่ 190 แห่ง จะเพิ่มเป็น 450 แห่งสิ้นปีนี้ ส่วนการเช่ารถอีวีของ ปตท. ภายใต้EVme ปัจจุบันมีอยู่ 200 คัน จะเพิ่มอีก 500 คันในปีนี้”

ส่วนธุรกิจปัจจุบัน อย่างโรงกลั่นน้ำมัน ก็จะเป็นการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ให้ได้ตามมาตรฐานยูโร 5 เพื่อยกระดับเรื่องของการลดปล่อยมลพิษเพื่อดูแลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้านธุรกิจปิโตรเคมี ก็ต้องยกระดับการใช้วัตถุดิบ(feedstock) จากผลิตภัณฑ์การเกษตร เพื่อให้เกิดการย่อยสลายได้ เป็นต้น 

ส่วนความร่วมมือระหว่างบริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ร่วมมือกับฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ตั้ง บริษัท ฮอริษอนพลัส จำกัด (HORIZON PLUS) เพื่อเดินหน้าธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร (EV Value Chain) โดยจะขยายตลาดและสร้างฐานการผลิต EV ในไทยนั้น ล่าสุด ชัดเจนแล้วว่าจะจีดตั้งโรงงานในประเทศไทย ในแถบภาคตะวันออก จะเริ่มการผลิตรถในช่วงต้นปี2567 กำลังผลิตเฟสแรก 50,000 คัน ภายใต้งบลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์ และผลิตเฟส 2 อีก 150,000 คันต่อปีในปี2573 ส่วนลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการแพลตฟอร์มผลิตรถอีวีนั้น เบื้องต้นมีผู้สนใจแล้ว 2-3 ราย

นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆนี้ ทางคณะผู้บริหาร Foxconn ได้มีโอกาสเดินทางมาประเทศไทยเพื่อร่วมหารือแผนการดำเนินงานในรายละเอียดหารือถึงโอกาสในการต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในอุตสาหกรรม Smart Electronics และ Semiconductor รวมถึงการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำในการผลิต EV ซึ่ง ปตท. พร้อมสนับสนุนความร่วมมือต่อยอดการลงทุนอิเล็กทรอนิกส์ แต่การจะดึงดูดให้Foxconn เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มเติมนั้น ยังต้องอาศัยการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ เช่น เรื่องของการให้สิทธิประโยชน์ส่วเสริมการลงทุนต่างๆ เป็นต้น 

ขณะที่เรื่องของธุรกิจใหม่ ปตท.จะขับเคลื่อนการเติบโตตามวิสัยทัศน์ “Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต” ซึ่งต้องเปลี่ยนจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่การใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น ซึ่งจะต้องพัฒนาธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนด้วยกำลังการผลิตจากพลังงานทดแทนที่ 12 GW ภายในปี 2573 จากปัจจุบัน มีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ 

ทั้งนี้ ตามแผนลงทุน 5 ปี(2565-2569) ได้ตั้งงบประมาณอยู่ที่ราว 146,000 ล้านบาท และกลุ่ม ปตท. จะใช้งบประมาณอยู่ที่ราว 980,000 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโตจากธุรกิจพลังงาน แห่งอนาคต (Future Energy and Beyond) โดยตั้งเป้าใน10 ปีข้างหน้า ให้มีสัดส่วนการลงทุน 30% และในปี 2573