“ไทยออยล์” โดดลงทุนสตาร์ทอัพระดับโลก ลุย “ธุรกิจไฮโดรเจนสีเขียว”

ผู้ชมทั้งหมด 1,339 

ไทยออยล์ ส่งบริษัทลูก“ท็อป เวนเจอร์” เข้าร่วมลงทุนในบริษัท Versogen สตาร์ทอัพชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา เดินหน้าเทคโนโลยีผลิต “ไฮโดรเจนสีเขียว” มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำธุรกิจพลังงาน และประกาศชัดเจน กำหนดเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ในปี พ.ศ. 2593 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในปี พ.ศ. 2603 ภายใต้เป้าหมายการขับเคลื่อนธุรกิจของไทยออยล์ในปี พ.ศ. 2573 จะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ประมาณ 10% จากธุรกิจโรงกลั่นปิโตรเลียม 40% ธุรกิจปิโตรเคมี 40% และ ธุรกิจโรงไฟฟ้า 10% และมีความตั้งใจที่จะเดินหน้าสร้างอนาคตที่ยั่งยืนด้วยกลยุทธ์การกระจายการเติบโตไปยังธุรกิจใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และธุรกิจใหม่เชิงนวัตกรรม

การลงทุนในเทคโนโลยีผลิต “ไฮโดรเจนสีเขียว” จึงนับเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยสนับสนุนการใช้พลังงานที่ผลิตจากพลังงานธรรมชาติ และมุ่งสู่ Net Zero Greenhouse Gas Emission รวมถึงการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ท็อป เวนเจอร์” บริษัทในกลุ่มไทยออยล์ เข้าลงทุนในธุรกิจ “ไฮโดรเจนสีเขียว” (Green Hydrogen) ซึ่งเป็นก๊าซไฮโดรเจนที่ผลิตจากพลังงานสะอาด เช่น พลังงานจาก แสงอาทิตย์ พลังงานลม ผ่านบริษัท Versogen สตาร์ทอัพชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีเทคโนโลยีโดดเด่นทางด้านเมมเบรน (Membrane) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในการผลิต “ไฮโดรเจนสีเขียว” แบบ Anion Exchange Membrane (AEM) Electrolyzers เพื่อรองรับความต้องการที่คาดว่า จะมีสูงมากจากทั่วโลกในอนาคต

“หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของไทยออยล์ คือ กลยุทธ์การกระจายการเติบโตและสร้างความมั่นคงผ่านพอร์ตการลงทุน (Value Diversifications) ด้วยการแสวงหาโอกาสในการเข้าสู่ธุรกิจ New S-Curve”

ดังนั้น  การลงทุนในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการเดินตามกลยุทธ์ขององค์กรดังกล่าวและยังส่งเสริมการมุ่งสู่ Net Zero Greenhouse Gas Emission และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของไทยออยล์ในการ “สร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยีการผลิต “ไฮโดรเจนสีเขียว” มาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสามารถสนับสนุน Net Zero Greenhouse Gas Emission โดยไฮโดรเจนเริ่มมีการใช้งานอย่างเป็นรูปธรรม ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในทวีปยุโรปมีความต้องการใช้ “ไฮโดรเจนสีเขียว” เพื่อเป็นสารตั้งต้นในการผลิต (Feedstock) และเป็นแหล่งพลังงานในอนาคต