ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ยังผันผวนในระดับสูง

ผู้ชมทั้งหมด 401 

ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ยังผันผวนในระดับสูง หลังยุโรปเห็นพ้องลดนำเข้าน้ำมันรัสเซีย ขณะที่จีนเริ่มคลายการปิดเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักวิเคราะห์ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ประเมินทิศทางราคาน้ำมันดิบยังผันผวนในระดับสูง โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้ (6 มิ.ย. – 10 มิ.ย.65) จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 111-121 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 112-125 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สำหรับปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ เนื่องจากตลาดยังคงกังวลภาวะอุปทานน้ำมันดิบโลกตึงตัวมากขึ้นหลัง การประชุมสหภาพยุโรปวันที่ 30-31 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา มีข้อสรุปที่จะลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียลง 90% ภายในปีนี้ โดยจะยกเลิกการนำเข้าทางทะเลทั้งหมด ยกเว้นเพียงบางประเทศ ได้แก่ สโลวาเกีย ฮังการี และสาธารณรัฐเช็ก ที่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซียปริมาณมาก ให้นำเข้าผ่านท่อ Druzhba ได้ต่อเนื่อง เพื่อมีเวลาในการเตรียมตัว

ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันโลกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนมีแนวโน้มดีขึ้น โดยล่าสุดจีนได้เริ่มเปิดเมืองเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา ขณะที่การแพร่ระบาดในเมืองปักกิ่งมีแนวโน้มดีขึ้นเช่นกัน ทำให้จีนมีการผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดต่างๆ ได้แก่ การลดระยะเวลาของการกักตัว การอนุญาตให้เปิดบริการสถานที่สาธารณะได้ มีเพียงบางเขตที่ยังคงพบผู้ติดเชื้อและมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดที่ยังคงใช้มาตรการเข้มงวด

ด้าน EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบคงคลังของหสรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 พ.ค. 65 ปรับตัวลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเป็นการปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้น้ำมันในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินที่ปริมาณการใช้เพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงฤดูกาลขับขี่ ขณะที่ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 พ.ค. 65 ปรับลดลง 1 แท่น จากที่เพิ่มขึ้นกว่า 14 แท่น แตะระดับที่ 728 แท่น เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 63

ด้าน Kpler รายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบรัสเซียทางทะเลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในเดือนพ.ค. 65 ปรับตัวสูงขึ้นใกล้ระดับ 80 ล้านบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 11 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ เนื่องจากการส่งออกไปยังจีนและอินเดียเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอินเดียที่นำเข้าน้ำมันรัสเซียเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเม.ย. 65 ที่ผ่านมา เนื่องจากราคาน้ำมันดิบของรัสเซียที่มีราคาถูก ประกอบกับราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้หลายโรงกลั่นในอินเดียปรับเพิ่มการผลิตเพื่อให้ได้ค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นและรองรับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นจริง

ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัสกำลังพิจารณาที่จะระงับการมีส่วนร่วมของรัสเซียชั่วคราวในข้อตกลงด้านการผลิตของกลุ่มประเทศสมาชิกเพื่อให้ประเทศซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ยังคงมีกำลังการผลิตส่วนเกิน (Spare Capacity) เหลืออยู่ และประเทศสมาชิกรายอื่นๆ ได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อทดแทน การผลิตที่อาจลดลงของรัสเซียได้ ทั้งนี้ หากกลุ่มโอเปกพลัสสามารถปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าแผนเดิมที่ผลิตอยู่ที่ 432,000 บาร์เรลต่อวัน จนถึงเดือนก.ย. 65 ได้ จะถือว่าสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ และยุโรปก่อนหน้านี้ ที่เรียกร้องให้ทางกลุ่มเร่งปรับเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อช่วยบรรเทาราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูง

สำหรับเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 1/65 ของสหภาพยุโรป ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 4.6% y-o-y โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในระดับที่ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า และดุลการค้าของจีนเดือนพ.ค. 65 ตลาดคาดกาณ์มีแนวโน้มเกินดุลที่ระดับ 50.65 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งเกินดุลลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 51.12 พันล้านเหรียญฯ