BANPU ทุ่ม 2.5 หมื่นล้านเข้าซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ในสหรัฐฯ

ผู้ชมทั้งหมด 1,685 

BANPU ทุ่ม 2.5 หมื่นล้านเข้าซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ในสหรัฐฯ คาดแล้วเสร็จมิ..นี้ ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมของธุรกิจก๊าซธรรมชาติเพิ่มเป็น 900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน 

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า บริษัท BKV Corporation (BKV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บ้านปูถือหุ้นในสัดส่วน 96.12% ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อเข้าซื้อสัดส่วนผลประโยชน์ในแหล่งก๊าซธรรมชาติและครอบคลุมถึงธุรกิจกลางน้ำ (Midstream) บริเวณแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ในประเทศสหรัฐอเมริกา จากบริษัท XTO Energy, Inc. and Barnett Gathering LLC (XTO) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Exxon Mobil Corporation โดยมีมูลค่าการลงทุนจำนวน 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบเท่าประมาณ 25,125 ล้านบาทและมูลค่าผลประโยชน์แก่ผู้ขายในอนาคตโดยรวมไม่เกิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สำหรับเงินลงทุนสำหรับโครงการนี้มาจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ และการสนับสนุนจากสถาบันการเงิน ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าวอยู่ในระหว่างการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในสัญญา โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน2565

อย่างไรก็ตามสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงต่ำในการผลิต เนื่องจากเป็นแหล่งที่มีความพร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐานและระบบการขนส่ง โดยบริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการผลิตเองรวมทั้งบริหารจัดการขั้นตอนการอัดก๊าซธรรมชาติครอบคลุมระบบท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่ตอบสนองความต้องการก๊าซธรรมชาติที่สำคัญในบริเวณรัฐแถบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐอเมริกา โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ครอบคลุมพื้นที่การผลิตก๊าซธรรมชาติประมาณ 160,000 เอเคอร์ในบริเวณใจกลางของแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ โดยมีผลประโยชน์ในหลุมผลิตคิดเป็น 93% ของจำนวนหลุมผลิตทั้งหมดมากกว่า 2,100 หลุม โดยเป็นผู้ดำเนินการผลิตเอง

2. เป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่ขั้นตอนการอัดก๊าซธรรมชาติ บริหารจัดการระบบท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติ ครอบคลุมระยะทาง 750 ไมล์ โดยมีสถานีอัดก๊าซธรรมชาติ (Gas Compressor stations) จำนวนมากกว่า 20 สถานี ซึ่งสามารถเข้าถึงตลาดที่มีความต้องการก๊าซธรรมชาติที่สำคัญ โดยมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับไว้แล้ว รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้ง ก๊าซธรรมชาติ และ ก๊าซธรรมชาติเหลว (NGL)

3. ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติคิดตามสัดส่วนการลงทุนประมาณ 225 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน มีอัตราการลดลงของการผลิตที่ต่ำ สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง

การลงทุนในครั้งนี้ทำให้กำลังการผลิตรวมของธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกาของบ้านปูเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ประมาณ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็น 900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และมีปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติ 1P จากปัจจุบันประมาณ 4.4 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต เป็นประมาณ 5.8 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต โดยสามารถสร้างพลังร่วม(Synergy) กับแหล่งผลิตเดิมที่มีอยู่ และสร้างโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ เพื่อการเติบโตในระยะยาว แหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งนี้ เป็นแหล่งที่ดำเนินการผลิตอยู่แล้ว เป็นพื้นที่ที่ BKV มีความคุ้นเคย มีอัตราการลดลงจากการผลิตที่ต่ำจึงมีความเสี่ยงต่ำลงด้วย 

อีกทั้งยังตั้งอยู่ในแหล่งที่มีความต้องการก๊าซธรรมชาติที่สำคัญในบริเวณรัฐแถบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐอเมริกา สามารสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่การดำเนินงาน (Value chain) และสร้างกระแสเงินสดได้ทันที และจะทำให้ BKV กลายเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์(Barnett) พร้อมทั้งการสร้างประโยชน์ร่วมทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้ รวมทั้งเทคโนโลยีจากการดำเนินงานในแหล่งผลิตเดิมที่มีอยู่

“การเข้าซื้อสัดส่วนผลประโยชน์ในแหล่งก๊าซธรรมชาติครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการเดินหน้าตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ในการเร่งเดินหน้าเปลี่ยนผ่านธุรกิจ ขยายพอร์ตพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงาน ยกระดับ Antifragile ในทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือทุกความผันผวน รวมทั้งการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ใหม่ๆ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน”นางสมฤดี กล่าว

การดำเนินการเข้าซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติปัจจุบันถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ธุรกิจก๊าซของบ้านปูจะสร้างการเติบโตผ่านการสร้างพลังร่วมที่ขยายวงกว้าง ประกอบกับการยกระดับศักยภาพทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน BKV เป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติชั้นนำในสหรัฐฯ ที่เน้นการบูรณาการห่วงโซ่คุณค่าในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาประสิทธิภาพของแหล่งก๊าซ โดยได้การรับรองว่าเป็นแหล่งก๊าซที่ดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบตั้งแต่ต้นทางของระบบการผลิต ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบ้านปูในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ โดยเรามุ่งมั่นสร้างการเติบโตจากจุดแข็งของ XTO Energy และทีมงาน เพื่อขับเคลื่อนอนาคตและการเติบโตอย่างยั่งยืน