ยกระดับท่าเรือแหลมฉบัง สู่มาตรฐานสากล ISO 22301 : 2019

ผู้ชมทั้งหมด 873 

“อธิรัฐ” มอบใบรับรองระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ตามมาตรฐาน ISO 22301 : 2019 ยกระดับท่าเรือแหลมฉบัง สู่มาตรฐานสากล พร้อมมอบนโยบายและติดตามโครงการที่สำคัญ

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2565 เวลา 14.15 น. ณ ห้องประชุมแตรทอง 1 ศูนย์สวัสดิการท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีมอบใบรับรองระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ตามมาตรฐาน ISO 22301 : 2019 สำหรับพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ให้แก่ เรือเอก กานต์ เมนะรุจิ รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง โดยมี กรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย นายเกรียงไกร ไชยศิริ วงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย  ผู้บริหารและพนักงานการท่าเรือ ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายอธิรัฐ กล่าวว่า แผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจจัดทำขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับเหตุวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบทำให้การบริการหยุดชะงัก เช่น อุทกภัย อัคคีภัย การชุมนุมประท้วง การจลาจล หรือเหตุการณ์โรคระบาดต่อเนื่อง เป็นต้น ส่งผลให้เกิดการหยุดงาน หรือไม่สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและพึงพอใจต่อลูกค้าผู้ใช้บริการ แผนบริหารความต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด และทำให้กระบวนการที่สำคัญสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติภายในระยะเวลาที่กำหนด ช่วยลดระดับความรุนแรงของผลกระทบที่เกิดขึ้นได้

รัฐมนตรีช่วยฯ ได้กล่าวชื่นชมการทำงานของคณะทำงานภายใต้ระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ISO 22301 : 2019 ผู้บริหาร และพนักงานของ กทท.ที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ร่วมมือร่วมใจกันอย่างเข้มแข็งในการมุ่งมั่นที่จะนำระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ISO 22301 มาพัฒนาอย่างเป็นระบบ จนได้รับการรับรองมาตรฐานจากบริษัทผู้ตรวจประเมินมาตรฐานสากล แสดงถึงความตั้งใจในการผลักดันความเป็นมาตรฐานสากลและส่งเสริมวิสัยทัศน์ “To be World Class Port” อย่างแท้จริง

ในการนี้รัฐมนตรีช่วยฯ  ยังได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนท่าเทียบเรือ F ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือเพื่อรองรับความต้องการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งขณะนี้ กทท. เป็นผู้ดำเนินงานก่อสร้างงานทางทะเลเพื่อรองรับการก่อสร้างท่าเทียบเรือและโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือชายฝั่ง งานระบบรางและย่านรถไฟ คาดว่าใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปี จึงจะส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนผู้รับสัมปทานดำเนินการต่อไป จึงได้เน้นย้ำให้ กทท. ดำเนินงานโครงการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ และให้คำนึงถึงคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ คำนึงถึงสุขภาพของประชาชนในบริเวณใกล้เคียง อันจะนำไปสู่ท่าเรือชั้นนำระดับมาตรฐานโลกต่อไป