ผู้ชมทั้งหมด 536
ส่องความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีชมพู 86.51% สายสีเหลือง 91.70% คมนาคม ลั่นพร้อมทดสอบเดินรถเสมือนจริง ก.ย.นี้ ทยอยเปิดให้บริการ ธ.ค. 65 มั่นใจเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทุกสถานีเดือน มิ.ย. 66 เก็บค่าโดยสาร 14-42 บาท
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) และรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) ว่า ภาพรวมการก่อสร้างของสายสีเหลืองมีความคืบหน้า 91.70% ส่วนสายสีชมพู คืบหน้า 86.51% โดยเตรียมทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) ตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 ระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งในระหว่างนี้จะขอให้เปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการฟรีด้วย ก่อนจะเปิดให้บริการบางช่วงอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2565 โดยในระยะแรกรถไฟฟ้าสายสีชมพูนั้นจะทยอยเปิดให้บริการจากสถานีมีนบุรี-สถานีหลักสี่ สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) และรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีเหลือง ช่วงสถานีสำโรงถึงสถานีพัฒนาการ ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับสายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน (MRT) โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทุกสถานีในเดือนมิถุนายน2566
“ยอมรับว่าการดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลืองมีความล่าช้าไปมากกว่า 5 เดือนเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ขาดแรงงานในการก่อสร้าง ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ไม่สามารถเดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้ การส่งมอบพื้นที่ตรงศูนย์ราชการมีความล่าช้า ขณะเดียวกันประเทศผู้ผลิตรถไฟฟ้าก็มีข้อจำกัดเรื่องส่งมอบขบวนรถไฟฟ้าจึงทำให้การดำเนินงานต่างๆ ต้องล่าช้าไปจากแผนที่วางไว้”นายสรพงศ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่และได้หารือถึงปัญหาและอุปสรรคในการก่อสร้างทั้ง 2 โครงการ ในเบื้องต้นได้พบปัญหาและอุปสรรคการก่อสร้างในพื้นที่ที่มีสาธารณูปโภคตามแนวเส้นทางก่อสร้าง เช่น บนถนนแจ้งวัฒนะ ได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานก่อสร้างและพิจารณาความเป็นไปได้อื่นๆ เช่น การปรับแบบแปลนก่อสร้างเพื่อหลีกเลี่ยงแนวสาธารณูปโภคดังกล่าว ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้มีการล้อคดาวน์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้การส่งมอบขบวนรถไฟฟ้าล่าช้าจากแผนเล็กน้อย โดยปัจจุบัน รถไฟฟ้าสายสีชมพูได้ส่งมอบรถแล้ว 21 ขบวนจากทั้งหมด 42 ขบวน และสายสีเหลือง ได้ส่งมอบรถแล้ว 26 ขบวน จากทั้งหมด 30 ขบวน โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบรถไฟฟ้าทั้งหมดในเดือนกรกฎาคม 2565
ส่วนของค่าโดยสารนั้น จะคิดอัตราเริ่มต้นที่ 14 บาท สูงสุดไม่เกิน 42 บาท ซึ่งตามเงื่อนไขในสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู กำหนดไว้แล้วว่าต้องไม่คิดค่าแรกเข้าซ้ำอีกในกรณีที่ผู้โดยสารเดินทางเชื่อมต่อมาจากรถไฟฟ้าของ รฟม. ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีม่วง และสายสีส้ม ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็ต้องมีการเจรจากันต่อไป เพื่อให้ยกเว้นค่าแรกเข้า ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียว ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็ต้องรอเจรจากับผู้ว่าราชการคนใหม่
อย่างไรก็ตามเพื่อความพร้อมในการทดสอบเดินรถ และเปิดให้บริการนั้นกระทรวงคมนาคมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำรายการตรวจสอบ (Checklist) เพื่อตรวจประเมินความพร้อมการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู ตามข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยการเชื่อมต่อขนส่งสาธารณะระบบต่างๆ อาทิ เรือโดยสารคลองแสนแสบ รถโดยสารประจำทาง หากมีความจำเป็นอาจพิจารณาปรับเส้นทางรถโดยสารประจำทางและมีป้ายรถโดยสารใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้า เพื่อเป็นการขนส่งสาธารณระบบรอง (Feeder) ให้กับรถไฟฟ้า และเกิดความสะดวก สบายแก่ประชาชน โดยการเช็กลิสต์คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือนนี้