ผู้ชมทั้งหมด 912
“นายก” เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์เบตง หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ด้านทย.วางเป้าขยายรันเวย์2,500 เมตร รองรับเครื่องบินลำใหญ่ เชื่อมโยงต่างประเทศ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ปฐมฤกษ์ ท่าอากาศยานเบตง จังหวัดยะลา ว่า อำเภอเบตงเป็นอำเภอใต้สุดของประเทศไทยติดกับชายแดนของประเทศมาเลเซียถือเป็นเมืองชายแดนที่มีการเคลื่อนไหวทางธุรกิจและการค้าขายสูง ประกอบกับมีการผสมผสานทางวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ รวมถึงภาษาที่หลากหลาย และธรรมชาติมีความสวยงามทำให้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้เพื่อรองรับการขนส่งและการเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบ รัฐบาลจึงได้มอบให้กระทรวงคมนาคมในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการยกระดับการให้บริการประชาชน ด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานและบริการคมนาคมขนส่งให้มีความคุ้มค่าและทั่วถึง ดำเนินการพัฒนาระบบการขนส่งของพื้นที่จังหวัดยะลา โดยมีแนวทางการพัฒนาบริการขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน รวมทั้งพัฒนาด่านศุลกากรชายแดน ศูนย์เศรษฐกิจชายแดนและการอำนวยความสะดวกผ่านแดนที่รวดเร็ว ตลอดจนผลักดันการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งทางบกและทางอากาศ เพื่อให้เกิดระบบขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ สามารถรองรับการค้าและการลงทุนที่จะสูงขึ้นจากการเป็นประชาคมอาเซียน
นอกจากนี้แล้วการพัฒนาท่าอากาศยานเบตงยังเป็นตามยโสธรการพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แก้ไขปัญหาการเดินทางสู่อำเภอเบตงที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน ไม่สะดวกต่อการเดินทางให้สามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมทั้งกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 และนโยบายการพัฒนา 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว เนื่องจากอำเภอเบตงมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดรายได้ โดยท่าอากาศยานเบตงจะเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางการบินสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เป็นอย่างดี เริ่มให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์แรก โดยสายการบินนกแอร์ เส้นทางกรุงเทพฯ – เบตง – กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามในอนาคตนอกจากเส้นทางให้บริการภายในประเทศแล้ว ท่าอากาศยานเบตงยังมีความพร้อมที่จะมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Regional Hub) เส้นทางระหว่างประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ในอนาคตด้วย
ทั้งนี้เพื่อยกระดับท่าอากาศยานเบตงศูนย์กลางการบินของภูมิภาคในขณะนี้ทย. อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของแผนพัฒนาท่าอากาศยานเบตง ด้วยการขยายทางวิ่งเพิ่มอีก 700 เมตร เป็น 2,500 เมตร ขยายทางขับจากความกว้าง 18 เมตร เป็น 23 เมตร ขยายลานจอดเครื่องบินจากเดิมที่มีขนาด 94 x 180 เมตร เป็นขนาด 94 x 240 เมตร เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินขนาด 180 ที่นั่ง (แอร์บัส A380 และโบอิ้ง 737) จำนวน 3 ลำ และขยายพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่งไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกอีก 240 เมตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานในอนาคต
นายปริญญา แสงสุวรรณ อธิบดีทย. กล่าวว่า ท่าอากาศยานเบตงจะถึงจุดคุ้มทุนที่ไม่ต้องใช้เงินอุดหนุนจากภาครัฐหรือ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอบต) ได้เมื่อไหร่นั้นทย.ประเมินหลังจากนี้อีก 6 เดือน จะได้ความชัดเจนว่าสนามบินจะอยู่ได้หรือไม่ แต่กรมเชื่อว่าสนามบินจะไปต่อได้ เดี๋ยวกันสายการบิน ที่มาทำการบินที่เบตงก็เชื่อว่า การเปิดเส้นทางนี้จะทำให้ถึงจุดคุ้มทุนได้แน่นอน จากปัจจุบันได้รับเงินสนับสนุนจาก ศอบต. 2 ปี ปีละ 9 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในปัจุบันท่าอากาศยานเบตงนั้นยังได้รับความสนใจจากสายการบินอื่นๆ ที่จะมาเปิดเส้นทางบินเบตงซึ่งทย.ก็พร้อมที่จะรับพิจารณา แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยคาดว่าในอนาคตจะมีการเพิ่มเที่ยวบิน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง สุวรรณภูมิ-เบตง และหาดใหญ่-เบตง จากเดิมที่มีเฉพาะเส้นทาง ดอนเมือง-เบตง โดยเส้นทาง หาดใหญ่-เบตง คาดว่าจะได้เห็นการเปิดให้บริการภายในปี 2565 นี้และในอนาคตก็มีแผนที่จะเปิดเส้นทางบินเบตง-มาเลเซีย แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับภาครัฐเป็นผู้พิจารณาต่อไป ส่วนแผนขยายทางวิ่ง (รันเวย์) จาก 1,800 เมตร เป็น 2,500 เมตร ทางขับ ลานจอดเครื่องบิน และส่วนประกอบอื่นๆ วงเงินรวมประมาณ 1,871 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างออกแบบและขออนุมัติโครงการ