ผู้ชมทั้งหมด 1,075
มติ กบน.ควักเงินกองทุนน้ำมันฯ เพิ่ม ชดเชยราคาดีเซล แตะ 2.45 บาทต่อลิตร ป้องทะลุ 30 บาทต่อลิตร ส่งผลให้เงินไหลออกเดือนละ 4,600 ล้านบาท หลังราคาตลาดโลกขยับต่อเนื่อง
ทิศทางราคาน้ำมันโลกที่ยังทรงตัวระดับสูง โดยวันที่ 18 ม.ค. 2565 พบว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 84.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเวสเท็กซัส อยู่ที่ 85.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 87.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ประเทศไทย ยังมีนโยบายตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2565 โดยปัจจุบัน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้ใช้เงินเข้าไปอุดหนุนส่วนต่างราคาดีเซล แล้วอยู่ที่ 1.99 บาทต่อลิตร แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะรักษาระดับราคาขายปลีกไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรหลังราคาตลาดโลกยังปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2565 จึงมีมติให้นำเงินจากกองทุนน้ำมันฯ เข้าไปอุดหนุนราคาดีเซลเพิ่มเติม จากเดิมอุดหนุนอยู่ที่ 1.99 บาทต่อลิตร เป็น 2.45 บาทต่อลิตร เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้ทะลุ 30 บาทต่อลิตร ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ ต้องนำเงินไปชดเชยประมาณ 148 ล้านบาทต่อวัน หรืออยู่ที่ 4,600 ล้านบาทต่อเดือน
อีกทั้ง กบน.ยังมีมติให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ เข้าไปตรึงราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) ที่ราคา 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม โดยขยายระยะเวลาไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2565 จากเดิมจะสิ้นสุดในเดือน ม.ค. 2565 นี้ ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)
สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 16 ม.ค. 2565 เงินกองทุนติดลบ 8,782 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน อยู่ที่ 15,340 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 24,122 ล้านบาท โดยกองทุนฯมีเงินไหลออกจากการชดเชยราคาน้ำมันดีเซล 4,600 ล้านบาทต่อเดือน และชดเชย LPG รวม 1,900 บาทต่อเดือน รวมชดเชยทั้งสิ้น 6,500 ล้านบาทต่อเดือน