ผู้ชมทั้งหมด 2,138
“ฮอนด้า อี:เทคโนโลยี” เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงเพื่อการขับเคลื่อนแห่งอนาคต เตรียมพบกับยนตรกรรมซิตี้คาร์ไฮบริด ภายใต้ชื่อ e:HEV ในประเทศไทย 24 พ.ย.นี้ พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 2 ใน 3 ของยอดจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าทั่วโลกภายในปี 2030
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฮอนด้า แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและนำเสนอคุณค่าใหม่แห่งยนตรกรรมอย่างไม่หยุดนิ่ง ทั้งในด้านเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและเทคโนโลยีความปลอดภัย เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ตอบรับกับวิสัยทัศน์ 2030 ของฮอนด้า ที่มุ่งเน้นด้านการส่งมอบความสุขและเพิ่มศักยภาพในการใช้ชีวิต โดยมีเป้าหมายภายใต้ 2 ทิศทางหลัก ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวไปสู่สังคมปลอดมลพิษ (Carbon-free Society) และด้านความปลอดภัย เพื่อก้าวไปสู่สังคมปลอดอุบัติเหตุ (Collision-free Society)
นับเป็นความท้าทายและแรงกระตุ้นของฮอนด้า ในการพัฒนาการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายได้อย่างแท้จริง ฮอนด้า ได้มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยมลพิษที่ต่ำ ลดการสิ้นเปลืองของพลังงาน และนับจากนี้ ฮอนด้า พร้อมที่จะสื่อสารถึงเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ e:TECHNOLOGY
“ฮอนด้า อี:เทคโนโลยี” (Honda e:TECHNOLOGY) เป็นชื่อที่ใช้เรียกเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงของฮอนด้า ที่จะถูกนำไปใช้กับทุกผลิตภัณฑ์ของฮอนด้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นหลัก ซึ่งรวมถึงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ และเทคโนโลยีในการจัดการพลังงานต่าง ๆ โดยฮอนด้าแบ่งประเภทของเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงในรถยนต์ ดังนี้
- ระบบขับเคลื่อนไฮบริด (Hybrid) ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวกับเครื่องยนต์และแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน
- ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) ที่ผสมผสานการทำงานจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า และสามารถรองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าจากภายนอกได้ด้วยการเสียบปลั๊ก มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับที่ต่ำ
- ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (Battery Electric Vehicle) มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์
- ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Fuel Cell) มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ โดยปล่อยของเสียเป็นหยดน้ำบริสุทธิ์
ทั้งนี้ ฮอนด้า ได้พัฒนาและติดตั้งเทคโนโลยีข้างต้นในรถยนต์ของฮอนด้า และส่งมอบสู่ลูกค้าแล้วหลากหลายรุ่น อาทิ ฮอนด้า อีรถซิตี้คาร์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% และ ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนที่ได้เปิดตัวแล้วในประเทศญี่ปุ่น
ภายใต้ ฮอนด้า อี:เทคโนโลยี (Honda e:TECHNOLOGY) จะมีอักษร “อี” (e:) อยู่ในชื่อของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยฮอนด้า ได้ริเริ่มการสื่อสารผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับรถยนต์ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด ในชื่อ อี:เอชอีวี (e:HEV)
ระบบขับเคลื่อน อี:เอชอีวี (e:HEV) นับเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อไปสู่การขับเคลื่อนแห่งอนาคต ด้วยการผสานการทำงานอันทรงพลังของเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน สู่ระบบขับเคลื่อนไฮบริด โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ การมอบสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม แรงบิดที่ทรงพลัง อัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจ แต่ยังคงไว้ซึ่งประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล อีกทั้งประหยัดน้ำมันและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยในประเทศไทย ฮอนด้า ได้ติดตั้งระบบขับเคลื่อนไฮบริด Sport Hybrid i-MMD ในรถยนต์เซกเมนต์พรีเมียมซีดานอย่าง ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด เป็นรุ่นแรก และนับจากนี้ ยนตรกรรมฮอนด้าที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริดประสิทธิภาพสูง จะได้รับการสื่อสารภายใต้ชื่อ อี:เอชอีวี (e:HEV) ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญของฮอนด้าในการพัฒนายานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 2 ใน 3 ของยอดจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าทั่วโลกภายในปี 2030
เตรียมพบกับ e:HEV เทคโนโลยีเพื่อการขับเคลื่อนแห่งอนาคต ครั้งแรกในประเทศไทยในยนตรกรรมซิตี้คาร์ยอดนิยม ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี พร้อมกันในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 นี้