ผู้ชมทั้งหมด 1,916
กฟผ. ส่งมอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ให้วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะพื้นที่บางกรวย 51 คัน พร้อมติดตั้งสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 3 แห่ง พัฒนาแอปพลิเคชัน “ENGY Rider” หนุนขนส่งสาธารณะสีเขียว ตอบโจทย์ Carbon Neutrality
วันนี้ (27 ธ.ค.2564) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ส่งมอบจักรยานยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ให้แก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะในพื้นที่บางกรวย จำนวน 51 คัน ณ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยมีนางสาวรฌทร สงวนพงศ์ นายอำเภอบางกรวย พร้อมด้วยนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้าร่วมในพิธี
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. ระบุว่า โครงการนี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากที่ กฟผ.ได้เปิดตัวนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของ กฟผ. พร้อมปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไปเมื่อปลายปี 2563 และได้เดินหน้าขยายผลสู่การนำร่องรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารับจ้างสาธารณะในพื้นที่อำเภอบางกรวย โดยครั้งนี้ กฟผ. ได้ส่งมอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “ENGY” ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ภายใต้แบรนด์ กฟผ. และได้รับการจดทะเบียนสาธารณะอย่างถูกต้องจำนวน 51 คัน ให้แก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะเพื่อทดลองให้บริการประชาชนเป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือและ กฟผ. จะศึกษาข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของผู้ขับขี่ ผลกระทบด้านพลังงาน เศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม รวมถึงความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ เพื่อขยายผลสู่รถรับจ้างสาธารณะทั่วประเทศ
สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ENGY ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 กิโลวัตต์ วิ่งได้ระยะทาง 100 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รับน้ำหนักได้มากกว่า 150 กิโลกรัม มีการติดตั้งระบบ GPS Tracking เพื่อติดตามตำแหน่งของรถ และระบบควบคุมความปลอดภัย ระบบตัดคันเร่งเมื่อนำขาตั้งลง ทำให้ผู้ขับขี่และผู้รับบริการเกิดความรู้สึกมั่นใจ
อีกทั้ง โครงการนี้ ยังเป็นหนึ่งในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนนโยบาย EGAT Carbon Neutrality ลดปัญหาการปล่อยมลพิษทางอากาศและฝุ่น PM 2.5 จากภาคการขนส่ง รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
“โครงการนี้ ใช้งบประมาณราว 21 ล้านบาท รวมงานวิจัยฯด้วย หรือมีต้นทุนการผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอยู่ทีประมาณ 84,000 บาท รวมค่าแบตเตอรี่ที่ราคาประมาณ 40,000 บาท”
นางสาวรฌทร สงวนพงศ์ นายอำเภอบางกรวย กล่าวว่า โครงการนำร่องการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารับจ้างสาธารณะในพื้นที่อำเภอบางกรวยซึ่งดำเนินการโดย กฟผ. ถือเป็นการนำร่องแห่งแรกใน จ.นนทบุรี เพื่อขับเคลื่อนบางกรวยสู่ชุมชนสีเขียว (Bangkruai Green Community) ด้านการขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยไร้มลพิษ และสนองนโยบายภาครัฐในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดจนเก็บข้อมูลผลศึกษาการใช้งานมิติต่างๆ เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
“เราคัดเลือกวินมอเตอร์ไซค์ที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 51 คันอย่างเข้มข้น เช่น ต้องไม่เสพยา ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย และต้องเป็นผู้เคารพกฎจารจร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการด้วย”
ทั้งนี้ ทางอำเภอบางกรวยได้คัดเลือกผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะเพื่อเข้าร่วมโครงการนำร่องรวมทั้งสิ้น 51 คน จากวินจักรยานยนต์รับจ้าง 9 จุดจอด คือ จุดท่าเรือพระรามเจ็ด จุดหน้า กฟผ. จุดตลาดหลัง กฟผ. จุดคอนโดสมชาย จุดตลาดนัดสมชาย จุดวัดจันทร์ จุดวัดชลอ จุดวัดสำโรง และจุดหน้าธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะให้ดีขึ้นจากรายจ่ายครัวเรือนที่ลดลงด้วย
นอกจากนี้ กฟผ. ได้ดำเนินการติดตั้งสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Battery Swapping Station) จำนวน 3 แห่ง ซึ่งจะบรรจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิด NMC (Lithium Nickel Manganese Cobalt Oxide) เพื่อรองรับการใช้งานที่ต่อเนื่อง ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง ศูนย์บริการ ENGY Bike Service Point (ใกล้วัดสำโรง) และชุมชนวัดชลอ
รวมถึงพัฒนาแอปพลิเคชัน “ENGY Rider” เพื่ออำนวยความสะดวกการใช้งาน ซึ่งผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบแบตเตอรี่ในสถานีสับเปลี่ยน ระยะทางที่ขับขี่ การมีส่วนร่วมลดคาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนผู้ใช้บริการก็สามารถดูข้อมูลผู้ขับขี่หรือเรียกใช้บริการซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดได้ในช่วงเดือนมกราคม 2565