ผู้ชมทั้งหมด 1,551
“SKE” เล็งสรุปพันธมิตรเข้าลงทุนธุรกิจบ่อขยะ ไตรมาส1 ปี65 หวังสร้างฐานธุรกิจ ต่อยอดสู่การลงทุนโรงไฟฟ้าขยะในอนาคต ล่าสุด ผนึก “SCIeco” เซ็นซื้อขายเชื้อเพลิงแข็งจาก RDF ช่วง 3 ปี ลุยก่อสร้างโรงงานใหม่ ขนาด 2 แสนตันต่อปี หนุนผลงานดี 65 ดีกว่าปี64
วันนี้ 24 ธ.ค.2564 บริษัท เอสซีไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด และ บริษัท เอ็น15 เทคโนโลยี จำกัด ได้ร่วมลงนามสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิงขยะ RDF ปริมาณ 2 แสนตันต่อปี เพื่อมุ่งหน้าสู่ Green Energy อย่างยั่งยืน โดยมี นายฐิติพงศ์ สีมาไพศาล กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด “SCIeco” และนายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น15 เทคโนโลยี จำกัด “N15 Technology” เป็นตัวแทนในการร่วมลงนามสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิงแข็งจากขยะ RDF (Refuse Derived Fuel) ระยะเวลา 3 ปี มีปริมาณการซื้อขายเชื้อเพลิง RDF มากกว่า 400,000 ตัน
นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น15 เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) “SKE” กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ บริษัท จะเดิหน้าลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงขยะ RDF ซึ่งมีกำลังการผลิตราว 580 ตันต่อวัน หรือประมาณ 200,000 ตันต่อปี หลังจากเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา บอร์ด SKE ได้มีการอนุมัติให้ N15 Technology ใช้งบประมาณราว 400 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานดังกล่าว ที่อำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี
โดยโรงงานนี้จะสามารถผลิตเชื้อเพลิงขยะ RDF ขนาด 35 มิลลิเมตร 50 มิลลิเมตร และขนาดต่ำกว่า 100 มิลลิเมตร เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่หลากหลายของแต่ละอุตสาหกรรมในปัจจุบัน คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการ และเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปี 2565 (ราว 70% ของกำลังการผลิตได้ลงนามสัญญาความร่วมมือกับ SCIeco เรียบร้อยแล้ว)
“สัญญาซื้อขายRDF ครั้งนี้ บริษัท จะส่งRDF ให้กับ SCIeco อยู่ที่ 140,000 ตันต่อปี และกำลังผลิตที่เหลือราว 30% จะส่งขายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม เช่น โรงงานปูนซีเมนต์ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าในอนาคตความต้องการใช้ RDF จะเติบโตขึ้นอย่างมาก”
อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 บริษัท ยังมองหาโอกาสเข้าไปลงทุนธุรกิจต้นน้ำในการบริหารจัดการบ่อฝังกลบขยะ(Landfill) ซึ่งขณะนี้ ได้เจรจากับพันธมิตรหลายราย ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดจะได้เห็นความชัดเจนในไตรมาส 1 เบื้องต้นคาดว่า จะใช้งบลงทุนไว้ ราวไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อแห่ง
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 ของ SKE คาดว่าจะเติบโตขึ้นจากปีนี้ เนื่องจากในปี 2564 ธุรกิจการอัดก๊าซธรรมชาติ (NGV) ยังได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ปี 2565 จะดีขึ้นจากรับรู้รายได้ของบริษัท เอ็ม15 เทคโนโลยี จำกัด(N15) เข้ามาเต็มปีในปีหน้า จากปีนี้รับรู้รายได้เพียงครึ่งปี และรับรู้รายได้จากการก่อสร้างโรงงาน RDF ขนาด 200,000 ที่จะแล้วเสร็จและจำหน่ายได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีหน้า รวมถึงอาจรับรู้รายได้จากโครงการลงทุนใหม่ เช่น การเข้าลงทุนบ่อขยะ (Landfill) เป็นต้น
นายจักรพงส์ กล่าวอีกว่า ในระยะยาว บริษัท มีเป้าหมายที่จะเข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าขยะ ดังนั้นในปัจจุบันจึงพยายามศึกษาและพัฒนาการผลิต RDF ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงมองหาโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนบ่อขยะ เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งธุรกิจต้นน้ำ และปลายน้ำ ในช่วง 1-3 ปี ซึ่งจะเป็นฐานสำคัญที่จะต่อยอดสู่การลงทุนโรงไฟฟ้าขยะต่อไป
นายฐิติพงศ์ สีมาไพศาล กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด “SCIeco” กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ นอกจากเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจแล้ว ยังส่งเสริมการเติบโตธุรกิจอย่างยั่งยืนจากการแปรรูปขยะไปเป็นพลังงาน โดยเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการใช้พลังงานฟอสซิล และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีส่วนสำคัญต่อภาวะโลกร้อน