“ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” พลิกฟื้นมีกำไรหลังโควิด จ่อเพิ่มทุน 1 พันล้าน

ผู้ชมทั้งหมด 359 

ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” พลิกฟื้นมีกำไรหลังโควิด จ่อเพิ่มทุน 1 พันล้าน มั่นใจออกจากแผนฟื้นฟูสิ้นปี 67 เปิดบินตรงสุวรรณภูมิ-นาโกยา เริ่ม 1 ส.ค.นี้ ระบุเส้นทางญี่ปุ่นหล่อเลี้ยงธุรกิจให้เติบโตทำเงินกว่า 50% ของรายได้

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดเผยว่า ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (รหัสเที่ยวบิน XJ) ได้เปิดให้บริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) – นาโกย่า ซึ่งจะเริ่มให้บริการเที่ยวบินแรกในวันที่ 1 ส.ค. 67 ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ  ราคาเริ่มต้นที่ 3,990 บาท ต่อเที่ยวบิน จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (ทุกวันจันทร์ พุธ พฤหัสบดี อาทิตย์)จองได้ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. – 2 มิ.ย.67 ที่ www.airasia.com และแอป AirAsia MOVE เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 67 – 29 มี.ค. 68

นายธรรศพลฐ์ กล่าวว่า ตั้งแต่หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาในทุกเส้นทางบินของไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ สู่ญี่ปุ่น ทั้ง 3เส้นทาง ได้แก่ นาริตะ โอซาก้า และซัปโปโร รวมถึงเส้นทางของไทยแอร์เอเชีย ที่บินสู่ฟูกูฏอกะ และโอกินาวา มีอัตราการขนผู้โดยสาร(Load Factor) เฉลี่ย 93 % แทบไม่มี Season เลย เต็มทุกวันทุกเที่ยวบิน ไม่มีหน้า low ไม่มีหน้า high และหวังว่าเส้นทางบินนาโกย่าที่เปิดใหม่จะช่วยเพิ่มอัตราการขนผู้โดยสารเส้นทางญี่ปุ่นไปถึง 95% โดยทุกเที่ยวบินสู่ญี่ปุ่นที่ให้บริการอยู่จะเป็นผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นประมาณ 35% และชาวไทย 65% เนื่องจากค่าเงินเยนอ่อน ของไม่แพง และคนไทยก็นิยมไปเที่ยวญี่ปุ่นมากขึ้น

“ทุกวันนี้เส้นทางบินญี่ปุ่นถือเป็นเส้นทางบินที่เลี้ยงไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เพราะในทุกเส้นทางบินอัตราการขนผู้โดยสารที่ดีมาก ถือเป็นเส้นทางบินหลักที่ทำรายได้ให้กับไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์มากกว่า 50%ของรายได้การบินทั้งหมด ที่เหลือเป็นรายได้จากเส้นทางบินเกาหลี ออสเตรเลีย และ จีน ซึ่งเชื่อว่าเส้นทางบินนาโกย่าจะทำให้รายได้ของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เพิ่มขึ้นประมาณ 15% “นายธรรศพลฐ์ กล่าวและว่า ปัจจุบันไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ขนผู้โดยสารเส้นทางบินญี่ปุ่นประมาณ 2.8 แสนคนต่อปี และการเปิดเส้นทางบินนาโกย่าคาดจะส่งผลให้อัตราการขนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 3-3.5 แสนคนต่อปี

อย่างไรก็ตามไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดเส้นทางบินใหม่ในอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น อย่างเมืองเซนได หรือเมืองทางตอนเหนือ รวมถึงออสเตรเลีย ที่เมลเบิร์น และจุดบินอื่นๆในยุโรป ส่วนเส้นทางตะวันออกกลางก็ยังไม่ได้ทิ้งอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งภายในสิ้นปีนี้น่าจะเปิดบินเส้นทางใหม่เพิ่ม2-3 เส้นทาง

สำหรับจำนวนผู้โดยสารไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์นั้นประมาณการว่าทั้งปี 67 น่าจะอยู่ที่ประมาณเกือบ 1 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 90%ของช่วงก่อนโควิด-19 ขณะที่เครื่องบินนั้นปัจจุบันมีอยู่  7 ลำและภายในสิ้นปีนี้จะมีเครื่องบินเข้ามาจำนวน 4 ลำ ซึ่งจะทำให้มีเครื่องบินรวม 11 ลำ จากนั้นภายในสิ้นปี 68 จะมีเครื่องบินเพิ่มรวม 15 ลำ เพื่อรองรับเส้นทางบินที่จะเพิ่มขึ้น

นายธรรศพลฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเส้นทางบินไปจีน นั้นแม้ว่าจะมีมาตรการวีซ่าฟรี แต่ผู้โดยสารชาวจีนที่เดินทางมาไทยก็ยังไม่กลับมาเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด -19 ซึ่งปัจจัยส่วนหนึ่งน่าจะมาจากภาวะเศรษฐกิจของจีนที่ยังไม่ฟื้นตัว ขณะที่คนไทยเริ่มไปเที่ยวจีนมากขึ้นประมาณ 20-30% แต่เชื่อว่าช่วงกลางปีหน้า ผู้โดยสารจีนจะกลับมาเทียบเท่าช่วงก่อนโควิด-19 โดยปัจจุบันสายการบินไทยแอร์เอเชีย และสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ มีจุดบินไปจีน 14 เมือง อัตราการขนผู้โดยสารเฉลี่ย 83-86% และในทุกๆ 6 เดือนจะมีการเพิ่มเส้นทางบินในจีนอีก 1 จุด

นายธรรศพลฐ์ กล่าวด้วยว่า ช่วงไตรมาส 1/67 ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ มีผลกำไรจากการดำเนินงานครั้งแรกหลังโควิดราว 1 พันล้านบาท และแม้ว่าในไตรมาส 2-3 จะเป็นช่วง Low Season แต่รายได้ก็ไม่ตกมากเหมือนที่ผ่านมา และไตรมาส 4 ก็จะพุ่งขึ้น ทำให้คาดว่าทั้งปี บริษัทน่าจะมี EBITDA ประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท

ในส่วนของแผนฟื้นฟูกิจการนั้น ขณะนี้กำลังทยอยจ่ายหนี้คืน และเตรียมเพิ่มทุนอีก 1,000 ล้านบาทก่อนจะยื่นออกจากแผนฟื้นฟูกิจการในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ โดยการเพิ่มทุนจะมาจากผู้ถือหุ้นฝั่งไทย ที่ปัจจุบันถืออยู่ 51% โดยตนถือหุ้นอยู่ 48.6 % และที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นชาวไทยรายอื่นๆ ส่วนแอร์เอเชียเอ็กซ์ มาเลเซีย ถือหุ้น 49%

นายธรรศพลฐ์ กล่าวว่า ดีใจที่รัฐบาลชุดนี้เน้นการท่องเที่ยว และสายการบินก๋พยายามเพิ่มเที่ยวบินเพื่อรับนักท่องเที่ยวเข้ามา แต่ปัญหาทุกวันนี้คือเครื่องบินยังกลับมาไม่เพียงพอ เนื่องจากจอดทิ้งไว้หลายปีต้องรอเข้าศูนย์ซ่อม เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยก่อนทำการบิน แต่เวลานี้ศูนย์ซ่อมทุกแห่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คิวแน่นมาก คิดว่าภายในสิ้นปียนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้น

อย่างไรก็ตามปัจจุบัน ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (เที่ยวบิน XJ) มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) สู่โตเกียว 2 เที่ยวบินต่อวัน, โอซาก้า สูงสุด 2 เที่ยวบินต่อวัน, ซัปโปโร สูงสุด 1 เที่ยวบินต่อวัน, โซล สูงสุด 2 เที่ยวบินต่อวัน, ซิดนีย์ สูงสุด 1 เที่ยวบินต่อวัน, เซี่ยงไฮ้ สูงสุด 1 เที่ยวบินต่อวัน (นาโกย่า เริ่มบิน 1 สค จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์) รวมสูงสุด 36 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

สำหรับเส้นทางบินตรงสู่นาโกย่า เป็นเส้นทางที่หลายคนตื่นเต้นและเรียกร้องให้เรากลับมาบินอีกครั้ง ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่แพ้เส้นทางอื่นๆ ด้วยจุดเด่นความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว ทั้งในเมืองนาโกย่า ได้แก่ ปราสาทนาโกย่า Ghibli Park โอเอซิส 21 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซีไลฟ์ นาโกย่า เลโก้แลนด์ และเมืองใกล้เคียง เช่น คามิโคจิ ทาคายามะ สวนพฤษศาสตร์นาบานะโนะซาโตะ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ทำให้นาโกย่าซึ่งเป็นประตูสู่ภาคกลางของญี่ปุ่นมีความน่าสนใจและมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งนาโกย่าจะช่วยส่งเสริมเครือข่ายเส้นทางที่ครอบคลุมทั่วญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ นาโกย่ายังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมการกิน มีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง เรียกว่า นาโกย่า เมชิ ประกอบไปด้วย ฮิตสึมะบูชิ (ข้าวหน้าปลาไหล) มิโสะคัตสึ (หมูทอด) และเมนูอื่นๆ ซึ่งเป็นอาหารต้นตำหรับของนาโกย่า ที่น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของชาวไทย