ผู้ชมทั้งหมด 46
“ไทยออยล์” ย้ำพยายามอย่างเต็มที่ผลักดันให้ “UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem ”ชำระค่าค้างจ่ายให้กับผู้รับเหมาช่วง โครงการ CFP ขณะที่ บริษัทรับเหมาช่วงโครงการฯ นำแรงงานกว่าพันคนรวมตัวหน้าสถานทูตเกาหลี จี้ผู้รับเหมากลุ่มหลักเร่ง จ่ายเงิน
รายงานข่าวจากบริษัท ไทยออลย์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ระบุถึงกรณีผู้รับเหมาช่วงนำพนักงาน 500 คนไปประท้วงที่ สถานฑูตเกาหลี โดยขอย้ำว่า ไทยออยล์ ได้อนุมัติการแก้ไขสัญญา EPC โดยให้งบประมาณเพิ่มเติมอีกจำนวน 550 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ในหลายๆ ประเทศ และเริ่มส่งผลกระทบอย่างมากต่อการบริหารงานและการก่อสร้างโครงการพลังงานสะอาด หรือ CFP ของ UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem โดย ไทยออยล์ ได้ชำระค่าตอบแทนให้ UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem อย่างครบถ้วนตามงวดงานของสัญญา EPC
ไทยออยล์ ขอยืนยันว่า ไทยออยล์ได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการผลักดันให้ UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem ชำระค่าตอบแทนค้างจ่ายให้กับผู้รับเหมาช่วง โดยได้มีการส่งหนังสือสอบถาม UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem และบริษัทแม่ของ UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem เกี่ยวกับมาตรการในการจัดการดูแลบริษัทผู้รับเหมาช่วงที่ยังไม่ได้รับชำระค่าจ้าง รวมถึงแผนชำระค่าตอบแทนค้างจ่ายมาโดยตลอด
ทั้งนี้ ไทยออยล์ ไม่ได้เป็นคู่สัญญาในสัญญารับเหมาช่วง ดังนั้น หน้าที่ในการชำระค่าตอบแทนตามสัญญารับเหมาช่วงดังกล่าวเป็นหน้าที่ของ UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem ที่จะต้องรับผิดชอบโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ไทยออยล์ และผู้รับเหมาช่วง ต่างเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการไม่ทำตามสัญญาของ UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem ดังนั้น การเร่งบริหารจัดการโครงการ CFP จึงเป็นเป้าหมายหลักและเร่งด่วน ที่ไทยออยล์มุ่งมั่นในการดำเนินการก่อสร้างโครงการ CFP ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(12 ธ.ค.2567) เวลาประมาณ 10.00 น. กลุ่มบริษัทรับเหมาช่วงโครงการพลังงานสะอาด (CFP) จ.ชลบุรี ได้นำแรงงานกว่า 1,000 คน เดินทางมารวมตัวกัน [ibg;Iด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ตั้งอยู่บนถนนเทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อยื่นหนังสือต่อเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย เรียกร้องให้แก้ปัญหาการค้างชำระค่าจ้างที่เกิดขึ้นจากผู้รับเหมากลุ่มหลักซึ่งนำโดยบริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd.ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในประเทศเกาหลี
นำโดย นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ กรรมการบริหาร บริษัท ศรีราชาคนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เป็นตัวแทนยื่นหนังสือต่อตัวแทนสถานทูตเกาหลี ประจำประเทศไทย และในท้ายจดหมายได้แนบรายชื่อบริษัทผู้รับเหมาช่วงกว่า 100 บริษัท ที่ได้รับผลกระทบจากการค้างชำระเงินค่าแรง ที่อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนงานมากกว่า 10,000 คน
ทั้งนี้ ได้เรียกร้องให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นดังนี้
1.เข้าแทรกแซงกับบริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. เพื่อเร่งรัดการชำระค่าจ้างที่ค้างชำระให้แก่ผู้รับเหมาช่วงทั้งหมดรวมเป็นเงินกว่า 6,000 ล้านบาท
2.กระตุ้นให้บริษัท Samsung Corporation ใช้อำนาจที่มีในบริษัทสาขาเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการชำระเงินให้แก่ผู้รับเหมาช่วงทุกบริษัทอย่างครบถ้วนและตรงเวลา
3.อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างผู้รับเหมาช่วงที่ได้รับผลกระทบและบริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. เพื่อแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีการที่เป็นมิตร
4.กระตุ้นให้บริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. ทบทวนและแก้ไขข้อกำหนดในสัญญาที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่สมเหตุสมผลเพื่อให้แก้ไขปัญหาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด