ผู้ชมทั้งหมด 1,902
ประเทศไทยเผชิญหน้ากับวิกฤตโควิด-19 ระลอก 3 ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2564 ซึ่งเป็นการแพร่ระบาดในประเทศครั้งรุนแรงที่สุดและยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ร่วมยืนหยัดเคียงข้างสังคมไทยฝ่าวิกฤต ด้วยการส่งมอบความช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วนอย่างรอบด้าน เพื่อร่วมบรรเทาสถานการณ์และหยุดยั้งการแพร่ระบาดในครั้งนี้
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวว่า “เอ็กโก กรุ๊ป มีพันธกิจสำคัญในการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม และขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการให้ความสำคัญในการช่วยเหลือ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ บุคลากรทางการแพทยด่านหน้าที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงสูงทั่วประเทศ และชุมชนในพื้นที่ที่เอ็กโก กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจหรือมีโรงไฟฟ้าตั้งอยู่
โดยได้สนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วนอย่างรอบด้าน ทั้งการบริจาคทุนทรัพย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นครอบคลุมตั้งแต่การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อให้หายขาดจากโรคและกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรง การป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจายเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ตลอดจนสนับสนุนการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน”
ทั้งนี้นับตั้งแต่การระบาดครั้งใหม่ของโควิด-19 ในปีนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ได้เดินหน้าบริจาคทุนทรัพย์และระดมความช่วยเหลือรวมมูลค่ากว่า 19 ล้านบาท ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ดังนี้
ร่วมกับกลุ่ม กฟผ. สนับสนุนทุนทรัพย์แก่โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ 77 จังหวัด นำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างคล่องตัวและมีความปลอดภัยสูงสุด วงเงิน 15 ล้านบาท
ร่วมกับกลุ่ม กฟผ. สนับสนุนทุนทรัพย์แก่มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อจัดหายาฟ้าทะลายโจรและนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ป่วยและคลัสเตอร์กลุ่มเสี่ยงโควิด-19
สนับสนุนทุนทรัพย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าในกลุ่มเอ็กโก และสนับสนุนการจัดตั้งหน่วยคัดกรองโควิด-19 เพื่อมีส่วนร่วมดูแลประชาชนและชุมชนรอบโรงไฟฟ้าในกลุ่มเอ็กโก
สนับสนุนทุนทรัพย์แก่ “ศูนย์บริการฉีดวัคซีน KU สู้ COVID-19” ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และสนับสนุนการทำงานของจิตอาสา รวมถึงสนับสนุนอาหารและเครื่องดื่มแก่บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติงาน และจิตอาสา “ศูนย์บริการฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์”
สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และส่งเสริมการจัดการขยะติดเชื้ออย่างถูกวิธีแก่โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในภูมิภาคต่างๆ จำนวน 85 แห่ง เพื่อมีส่วนร่วมดูแลเยาวชน ประชาชน และชุมชนในพื้นที่ที่โรงไฟฟ้าในกลุ่มเอ็กโกดำเนินการอยู่
สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นแก่ “ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อเขตบางแคและเขตหลักสี่” เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ ชุด PPE ชุด CPE ถุงมือทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานในศูนย์พักคอยฯ ให้มีความปลอดภัยสูงสุดในการดูแลผู้ติดเชื้อ
สนับสนุน “ถุงห่วงใย” บรรจุชุดยาและเวชภัณฑ์สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation Kit) จำนวน 200 ชุด แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ศูนย์บริการสาธารณสุข และกลุ่มงานป้องกันและควบคุมโรค ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าเอ็กโกโคเจนและนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง จังหวัดระยอง เพื่อร่วมดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่แยกกักตัวที่บ้านและในศูนย์ชุมชน
สนับสนุนทุนทรัพย์สำหรับโครงการ “Covid Home Care” ของสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการ เพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ (H.E.C) เพื่อดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่พักรักษาตัวที่บ้าน และตรวจหาผู้ติดเชื้อแบบเชิงรุกในชุมชน
สนับสนุนทุนทรัพย์สำหรับโครงการ “พลังใจอาสาช่วยหมอ” ในการก่อสร้างหอผู้ป่วยสนามเร่งด่วนและจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
“ตลอดช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป ได้ร่วมเคียงข้างคนไทย ฝ่าวิกฤต รวมวงเงินช่วยเหลือจำนวน 51 ล้านบาท เรายังคงเดินหน้าสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจด้านสาธารณสุขของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และอาสาสมัคร อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมบรรเทาสถานการณ์ หยุดยั้งการแพร่ระบาด และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศไทย ด้วยความปรารถนาให้ประเทศไทยข้ามพ้นวิกฤตโควิด-19 และคนไทยสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็วที่สุด” นายเทพรัตน์กล่าว