ผู้ชมทั้งหมด 1,483
“เอ็กโก กรุ๊ป” ขานรับนโยบาย “No Gift Policy” จัดโครงการ “เปลี่ยนของขวัญปีใหม่ เป็นพลังใจให้สังคม” นำงบมอบของขวัญให้ผู้มีส่วนได้เสียและพันธมิตรทางธุรกิจเปลี่ยนเป็นบริจาคสนับสนุนองค์กรสาธารณกุศลและมูลนิธิต่างๆ ในเทศกาลปีใหม่ 2565
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป ได้ประกาศนโยบาย No Gift Policy ในทุกระดับขององค์กร เพื่อยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีและสร้างมาตรฐานการประกอบธุรกิจที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตามแนวทางการต่อต้านคอร์รัปชัน ดังนั้น ในโอกาสเทศกาลปีใหม่นี้ เอ็กโก กรุ๊ป จึงได้จัด “โครงการเปลี่ยนของขวัญปีใหม่ เป็นพลังใจให้สังคม” โดยนำงบประมาณที่ใช้จัดทำของขวัญปีใหม่เพื่อมอบให้ผู้มีส่วนได้เสีย เปลี่ยนไปเป็นการบริจาคงบประมาณดังกล่าวแก่องค์กรสาธารณกุศลและมูลนิธิต่างๆ โดยเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียและพันธมิตรทางธุรกิจที่เคยได้รับของขวัญจากเอ็กโก กรุ๊ป มาร่วมแบ่งปันและส่งต่อความสุข ด้วยการร่วมเลือกองค์กรสาธารณกุศลและมูลนิธิที่ประสงค์ให้เอ็กโก กรุ๊ป นำงบประมาณไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือสังคมต่อไป
“เอ็กโก กรุ๊ป เชื่อว่าการแบ่งปันความปรารถนาดีและส่งต่อความช่วยเหลือให้ผู้อื่นในช่วงเทศกาลแห่งความสุขและการเฉลิมฉลองจะช่วยสร้างพลังบวกให้แก่ทั้งผู้ให้และผู้รับ ในขณะเดียวกัน ในปี 2564 เป็นต้นมา”
สำหรับโครงการ “เปลี่ยนของขวัญปีใหม่ เป็นพลังใจให้สังคม” จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2565 โดยผู้มีส่วนได้เสียหรือพันธมิตรทางธุรกิจของเอ็กโก กรุ๊ป สามารถร่วมส่งต่อพลังใจให้สังคม โดยร่วมเลือกองค์กรสาธารณกุศลและมูลนิธิที่ประสงค์ให้เอ็กโก กรุ๊ป บริจาคงบประมาณได้ที่เว็บไซต์ https://bit.ly/stakeholderpalungjai หรือสแกน QR Code ตามแนบในเว็บไซต์ดังกล่าวจะมีกิจกรรมให้ร่วมเล่นเกมรับโควต้า “พลังใจ” ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นจำนวนเงินบริจาคและสามารถเลือกองค์กรสาธารณกุศลและมูลนิธิต่างๆ ที่ต้องการสนับสนุนได้
ทั้งนี้ เอ็กโก กรุ๊ป จะส่งมอบเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรสาธารณกุศลและมูลนิธินั้นๆ ต่อไป โดยมีทั้งหมด 9 แห่ง ได้แก่ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ วัดพระบาทน้ำพุ โรงพยาบาลสงฆ์ รามาธิบดีเพื่อโรงพยาบาลชุมชน มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท มูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวก ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และมูลนิธิไทยรักษ์ป่า