เศรษฐกิจเริ่มฟื้น หนุนการใช้น้ำมัน 3 เดือนแรกปี65 โต 9.3%

ผู้ชมทั้งหมด 785 

กรมธุรกิจพลังงาน เผย ภาพรวมการใช้น้ำมันของประเทศ ช่วง 3 เดือนแรกปี65(ม.ค.-มี.ค.) โต 9.3%จากช่วงเดียวกันปีก่อนสะท้อนเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว น้ำมันเครื่องบิน พุ่ง 55.6% หลังคลายมาตรการการบิน

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยสถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 3 เดือนของปี 2565 (มกราคม-มีนาคม) พบว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.3 เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว โดยการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์(Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ55.6 น้ำมันเตาเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.4 LPG เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 การใช้ NGV เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 อย่างไรก็ตาม การใช้กลุ่มเบนซินลดลงร้อยละ 5.7 และน้ำมันก๊าดลดลงร้อยละ 7.0

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.32 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง ร้อยละ 5.7) การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 แก๊สโซฮอล์ อี20 และเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 6.88 ล้านลิตร/วัน 15.21 ล้านลิตร/วัน 5.70 ล้านลิตร/วัน และ 0.57 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ อี85 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.96 ล้านลิตร/วัน

นอกจากนี้ หากพิจารณาการใช้กลุ่มเบนซินเฉพาะเดือนมีนาคม 2565 เทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2565 พบว่า การใช้ลดลงร้อยละ 6.2 เนื่องจากราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินอยู่ในระดับสูง โดยราคาแก๊สโซฮอล์ปรับสูงขึ้นร้อยละ 10-13

ขณะที่การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 76.25 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 13.4) สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 64.73 ล้านลิตร/วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 61.9) น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 3.49 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้ 0.21 ล้านลิตร/วัน การใช้ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และการตรึงราคาให้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร

ส่วนการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 7.19 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน(เพิ่มขึ้น ร้อยละ 55.6) เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการการบินและการเดินทางเข้า-ออกประเทศ โดยมาตรการ Test & Go ได้เปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากระงับตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2564 โดยต้องตรวจ COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง และต้องมีหลักฐานการจองโรงแรมที่พัก นอกจากนี้ มาตรการ Test & Go เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ได้เปลี่ยนการตรวจหาเชื้อจากวิธี RT-PCR เป็น ATK และไม่ต้องจองโรงแรมในการตรวจครั้งที่ 2 พร้อมทั้งลดวงเงินประกันเป็นไม่ต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน ยังคงส่งผลให้การใช้น้ำมัน Jet A1 อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ

ด้านการใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 17.48 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.6) เนื่องจากการใช้ในภาคปิโตรเคมีที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 7.53 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.6) ภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.08 ล้านกก./วัน(เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.0) และภาคขนส่งที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.99 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.3) สำหรับการใช้ในภาคครัวเรือนใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 5.88 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.9)

การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.33 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.9) นอกจากนี้ พบว่าการใช้NGV เฉพาะเดือนมีนาคม 2565 สูงขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มาอยู่ที่ 3.42 ล้านกก./วัน

นอกจากนี้ การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,036,135 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 12.4) โดยการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 972,261 บาร์เรล/วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ10.5) สอดคล้องกับความต้องการใช้ในประเทศที่สูงขึ้น โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 93,798 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 95.1) สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 63,874 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 5,535 ล้านบาท/เดือน

และการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงมาอยู่ที่ 156,798 บาร์เรล/วัน (ลดลง ร้อยละ 7.2) คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 16,637 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 66.6) มูลค่าการส่งออกที่สูงขึ้นสวนทางกับปริมาณการส่งออกที่ลดลงเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของปี 2565