ผู้ชมทั้งหมด 21
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวนั่งรถไฟ “ลอยน้ำรับลมหนาว ชมวิวกลางเขื่อน” เส้นทาง Unseen ของการรถไฟฯ โดยเปิดให้บริการขบวนรถพิเศษนำเที่ยว เส้นทางกรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ ซึ่งเป็นทางรถไฟที่อยู่เหนืออ่างเก็บน้ำ ระยะทางรวม 24 กิโลเมตร โดยขบวนรถไฟจะวิ่งบนสันเขื่อน ลัดเลาะอ่างเก็บน้ำ ทำให้ดูเหมือนรถไฟวิ่งอยู่บนผิวน้ำจนเรียกกันทั่วไปว่า “รถไฟลอยน้ำ” เป็นเส้นทาง Unseen อีกหนึ่งแห่งของเมืองไทย ซึ่งเป็นแบบเช้าไปเย็นกลับ ให้บริการทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ตลอดเดือน พฤศจิกายน 2567 – มกราคม 2568 ประกอบด้วยวันที่ 3,9,10,16,17,23,24,30 พฤศจิกายน 2567 วันที่ 1,7,8,14,15,21,22 ธันวาคม 2567 และวันที่ 11,12,18,19,25,26 มกราคม 2568 (ยกเว้นวันหยุดเทศกาลปีใหม่วันที่ 28 – 29 ธันวาคม 2567 และวันที่ 4 – 5 มกราคม 2568) รวม 21 วัน
สำหรับขบวนรถให้บริการ มีทั้งแบบขบวนรถนั่งธรรมดา ชั้น 3 รถนั่งปรับอากาศ (OTOP TRAIN) และรถนั่ง/นอนปรับอากาศ (JR-WEST) พ่วงให้บริการในขบวนรถ คิดอัตราค่าโดยสาร ผู้ใหญ่และเด็กราคาเดียวกัน ดังนี้
1. รถธรรมดา ชั้น 3 (พัดลม) กรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ เที่ยวไป–กลับ ราคา 350 บาท
สระบุรี/แก่งคอย – โคกสลุง เที่ยวไป–กลับ ราคา 350 บาท เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ เฉพาะเที่ยวกลับ ราคา 150 บาท
2. รถนั่งปรับอากาศ (OTOP TRAIN) และรถนั่ง/นอนปรับอากาศ (JR-WEST) กรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ เที่ยวไป–กลับ ราคา 620 บาท
สระบุรี/แก่งคอย – โคกสลุง เที่ยวไป–กลับ ราคา 620 บาท เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ เฉพาะเที่ยวกลับ 250 บาท
3. รถธรรมดา ชั้น 3 (รถโถง) เดินทางระยะสั้น ไม่สำรองที่นั่งสระบุรี/แก่งคอย – โคกสลุง เที่ยวไป–กลับ ราคา 200 บาท แก่งเสือเต้น/โคกสลุง/แก่งเสือเต้น เที่ยวไป–กลับ ราคา 100 บาท
ส่วนขบวนรถจะออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 06.00 น. มีสถานีหยุดรับ–ส่ง ได้แก่ สถานีชุมทางบางซื่อดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี ชุมทางแก่งคอย และสถานีแก่งเสือเต้น โดยจะถึงจุดชมวิว “รถไฟลอยน้ำ” เวลา09.25 น. ทั้งนี้ ขบวนรถจะหยุดให้นักท่องเที่ยวชมวิวกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อถ่ายรูปแบบใกล้ชิดธรรมชาติ (20 นาที) จากนั้นขบวนรถจะหยุดที่สถานีโคกสลุง ให้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง OTOP ของฝากที่ขึ้นชื่อจังหวัดลพบุรี (30 นาที) ก่อนที่ขบวนรถจะกลับมาถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 10.35 น. นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นเดินเล่นชมวิวริมอ่างเก็บน้ำ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก นั่งรถตัวหนอน ไหว้พระใหญ่ เดินชม ชิม ช้อป อาหารและสินค้าจากร้านค้าของกลุ่มชุมชนท้องถิ่นที่มีให้เลือกหลากหลาย หรือสามารถท่องเที่ยวสถานที่ใกล้เคียงด้วยรถตู้ขนส่งสาธารณะได้ตามอิสระ อาทิ ทุ่งทานตะวัน สวนเฟิร์นยักษ์ คาเฟ่สไตล์ธรรมชาติ และขบวนรถจะเดินทางกลับจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 15.30 น. ถึงสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 18.50 น.
นายวีริศ กล่าวด้วยว่า การรถไฟฯ ยังนำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อาทิ น้ำยาล้างมือ สเปรย์ฆ่าเชื้อโรค และผ้าเช็ดทำความสะอาดแบบเปียก มาดูแลความสะอาดของขบวนรถและนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจและเพื่อสุขอนามัยที่ดีตลอดการเดินทางอีกด้วย ทั้งนี้ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสการเดินทางกับทริปพิเศษ ในช่วงเวลาพิเศษนี้ไปพร้อมกัน ที่สำคัญ ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่ก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่งล่วงหน้า ด้วยระบบ D-Ticket หรือที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเป็นหมู่คณะ สามารถเช่าตู้โดยสารพิเศษจัดเฉพาะแบบเหมาคัน โดยพ่วงเพิ่มไปกับขบวนรถนำเที่ยวดังกล่าวได้ สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่งานตั๋วหมู่คณะ หมายเลขโทรศัพท์ 02 6218701 ต่อ 5202 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย