“หยุนหลิน” โรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งของ EGCO Group ช่วยสร้างการเติบโตด้านรายได้ พร้อมดันพอร์ตพลังงานหมุนเวียน

ผู้ชมทั้งหมด 131 

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group เป็นผู้ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ที่มีโรงไฟฟ้าในกลุ่มกว่า 40 แห่ง กำลังผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมกว่า 7,000 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) และมีการลงทุนใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา

EGCO Group มีเป้าหมายมุ่งสู่องค์กรคาร์บอนต่ำ โดยเป้าหมายระยะสั้น คือ การเพิ่มสัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ภายในปี 2573 จากปัจจุบันมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,463 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็น 21% ของกำลังผลิตทั้งหมด ทั้งจากชีวมวล พลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมทั้งบนบกและนอกชายฝั่ง เซลล์เชื้อเพลิง และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่

หนึ่งในโครงการไฮไลท์ด้านพลังงานหมุนเวียนของ EGCO Group คือ การลงทุนในสัดส่วน 26.56% ในโครงการหยุนหลิน “Yunlin” โรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน กำลังผลิตรวม 640 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี กับ Taipower (Taiwan Power Company) ทั้งนี้ หลังจากจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบแล้ว จะช่วยเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามสัดส่วนการถือหุ้นให้ EGCO Group ประมาณ 170 เมกะวัตต์  

หยุนหลินนับเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน โดยตั้งอยู่บริเวณช่องแคบไต้หวัน ห่างจากชายฝั่งทะเลทางตะวันตกของมณฑลหยุนหลิน ในไต้หวัน เป็นระยะทางประมาณ 8-30 กิโลเมตร และครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 90 ตารางกิโลเมตร ความท้าทายประการหนึ่งของโครงการนี้คือ ขั้นตอนการติดตั้งเสากังหันลม (Monopiles) เนื่องจากเกาะไต้หวันมีฤดูมรสุม ส่งผลให้มีช่วงเวลาในการติดตั้งเสากังหันประมาณ 5-6 เดือนในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม โครงการสามารถติดตั้งเสากังหันลม (Monopiles) ซึ่งเป็นงานก่อสร้างส่วนที่ท้าทายที่สุดของโครงการฯ ครบ 80 ต้น เมื่อเดือนกรกฎาคม  2567 และได้ติดตั้งกังหันลม (Wind Turbine Generators – WTGs) ซึ่งทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าครบ 80 ต้น เรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา

ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า “ความก้าวหน้าของหยุนหลินเป็นผลมาจากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการบริหารโครงการและการวางแผนการก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการสนับสนุนของรัฐบาลไต้หวันและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน EGCO Group มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าหยุนหลินจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบทั้งหมดสิ้นปีนี้ โดยล่าสุดได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วทั้งสิ้น 73 ต้น คิดเป็นกำลังการผลิต 584 เมกะวัตต์ เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบถ้วนแล้ว คาดว่าจะสร้างกระแสเงินสดให้ EGCO Group เฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินโครงการ นอกจากนี้ กังหันลมที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วยังมีอัตราการผลิตไฟฟ้า (Capacity Factor) เฉลี่ยสูงกว่า 40% ซึ่งช่วยยืนยันศักยภาพในการสร้างรายได้ในอนาคต”

ปัจจุบันกังหันลมที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วได้จ่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเข้าสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้าไต้หวันแล้วมากกว่า 1,600 กิกะวัตต์ชั่วโมง เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์จะสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับครัวเรือนไต้หวันได้มากกว่า 600,000 หลังคาเรือน

สำหรับการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งหยุนหลิน นอกจากจะสร้างผลตอบแทนด้านการเงินให้ EGCO Group แล้ว ยังเป็นโอกาสเปิดตลาดการลงทุนในไต้หวัน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการลงทุนพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน รวมถึงส่งผลให้รัฐบาลไต้หวันรู้จัก EGCO Group ในฐานะนักลงทุนไทยที่มีศักยภาพ และทำให้ EGCO Group มีโอกาสได้เป็นพันธมิตรกับ Total Energies ซึ่งเป็นบริษัทด้านพลังงานระดับนานาชาติที่มีการดำเนินงานกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเปิดโอกาสให้ EGCO Group สามารถต่อยอดความร่วมมือในโครงการอื่น ๆ ในอนาคต